นางอรมน
ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
เปิดเผยถึงแผนการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ของไทย ในปี
2565 ว่า กรมฯ เตรียมเดินหน้าเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีอย่างเต็มที่
ตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์
ลักษณวิศิษฏ์) ที่ให้เร่งสร้างแต้มต่อให้กับสินค้าส่งออกของไทย
และการใช้ประโยชน์จาก FTA สร้างโอกาสทางการค้าการลงทุนให้กับผู้ประกอบการไทย
นางอรมน
กล่าวว่า การเจรจา FTA
ที่ค้างอยู่กับตุรกี ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม รอบที่ 8
ในช่วงเดือน มี.ค. - เม.ย. นี้ โดยจะหารือเรื่องการเปิดตลาดสินค้าและจัดทำข้อบท FTA
ที่ยังค้างอยู่ให้คืบหน้ามากที่สุด
ตั้งเป้าสรุปผลการเจรจาให้สำเร็จภายในปีนี้ ส่วนการเจรจา FTA กับปากีสถาน การจัดทำรายละเอียดของความตกลงใกล้เสร็จแล้ว
คงเหลือในส่วนของการเปิดตลาด ซึ่งกรมฯ อยู่ระหว่างนัดหมายปากีสถาน
เพื่อเร่งจัดประชุมหารือเรื่องที่ยังค้างให้คืบหน้าโดยเร็ว นอกจากนี้ การเจรจา FTA
อาเซียน-แคนาดา ได้ตกลงเปิดเจรจาไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564
ซึ่งทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างกำหนดแผนการเจรจา และคาดว่าจะนัดประชุมรอบแรกในเร็วๆ
นี้
สำหรับการเปิดเจรจา
FTA
ฉบับใหม่ 2 ฉบับ คือ FTA กับสหภาพยุโรป (อียู)
และ FTA กับสมาคมการค้าเสรียุโรป (เอฟตา) กรมฯ
ได้หารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องของไทยเพื่อร่างกรอบการเจรจา
ซึ่งดำเนินการใกล้เสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างหารือกับคู่เจรจา เพื่อจัดทำเอกสารความคาดหวังจากการเจรจาร่วมกัน
ซึ่งจะนำเอกสารดังกล่าวและร่างกรอบเจรจาเสนอคณะรัฐมนตรีขอความเห็นชอบเปิดการเจรจาต่อไป
สำหรับการหารือกับอียู อยู่ในขั้นตอนการทำความเข้าใจความคาดหวังของกันและกัน
ส่วนการหารือกับเอฟตามีคืบหน้าอย่างดี และคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเปิดการเจรจาได้ในช่วงปลายไตรมาสที่
1 หรือต้นไตรมาส 2 ของปีนี้
“ปัจจุบันไทยมี FTA 14 ฉบับ กับคู่ค้า 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้
อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เปรู ชิลี และฮ่องกง คิดเป็นสัดส่วน 63.5%
ของการค้าไทยกับโลก โดยการจัดทำ FTA กับประเทศใหม่ๆ
จะช่วยขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้กับผู้ประกอบการไทย
ซึ่งจะได้แต้มต่อทางการค้าจากการที่ประเทศคู่ค้าลดเลิกกำแพงภาษีศุลกากรและอุปสรรคทางการค้าต่างๆ”
นางอรมนเสริม
ทั้งนี้ ในปี
2564 การค้าระหว่างไทยกับอียู มีมูลค่า 39,872 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยอียูเป็นคู่ค้าอันดับที่ 5 ของไทย รองจากอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา
คิดเป็นสัดส่วน 7.40% ของการค้าไทยกับโลก ส่วนการค้าระหว่างไทยกับเอฟต้า มีมูลค่า
7,506 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 1.39% ของการค้าไทยกับโลก
สำหรับการค้าระหว่างไทยกับตุรกี มีมูลค่า 1,646 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 0.30%
ของการค้าไทยกับโลก และการค้าระหว่างไทยกับปากีสถาน มีมูลค่า 1,817
ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 0.34% ของการค้าไทยกับโลก
-----------------------------------------
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
16 กุมภาพันธ์
2565