กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์ ร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน-แคนาดา
ครั้งที่ 14 ผ่านระบบการประชุมทางไกล
ใกล้ได้ข้อสรุปขอบเขตเอฟทีเอของทั้งสองฝ่าย
เตรียมเสนอรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-แคนาดา เพื่อพิจารณาเปิดการเจรจา กันยายนนี้
คาดสินค้าเกษตร สินค้าวัตถุดิบ ภาคบริการและการท่องเที่ยวของไทยจะได้ประโยชน์
นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
เปิดเผยว่า นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
ได้มอบหมายให้เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน-แคนาดา
ครั้งที่ 14 ผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 เพื่อเร่งหาข้อสรุปขอบเขตสาระที่อาจครอบคลุมในเอฟทีเอ
ของทั้งสองฝ่าย ก่อนเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-แคนาดา
ในเดือนกันยายน 2564 เพื่อพิจารณาเปิดการเจรจาจัดทำเอฟทีเอ
อาเซียน-แคนาดา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเด็นผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของอาเซียน (ASEAN
Priority Economic Deliverable) ในปี 2564 นี้ด้วย
นายดวงอาทิตย์ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้
อาเซียนและแคนาดาใกล้ได้ข้อสรุปในเรื่องประเด็นที่จะใช้เป็นพื้นฐานในการเจรจาเอฟทีเอ
อาเซียน-แคนาดา แล้ว โดยคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายในกลางเดือนสิงหาคมนี้
เพื่อที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและแคนาดาจะสามารถประกาศเปิดการเจรจาจัดทำเอฟทีเอ
อาเซียน-แคนาดา ในเดือนกันยายน 2564 ซึ่งในส่วนการเตรียมการของไทยนั้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้มอบให้สถาบันวิจัยภายนอกศึกษาประโยชน์และผลกระทบในการจัดทำเอฟทีเอ
อาเซียน-แคนาดา
รวมถึงได้จัดประชุมหารือรับฟังความเห็นภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในช่วงเดือนกันยายน 2563
- มิถุนายน 2564 พร้อมถ่ายทอดผ่านช่องทาง Facebook
Live ของกรมฯ
เพื่อเปิดกว้างให้ผู้สนใจเข้าร่วมและสามารถรับชมย้อนหลังได้ด้วย
นายดวงอาทิตย์ เสริมว่า
จากการเปิดรับฟังความคิดเห็น พบว่า
ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเห็นว่าการจัดทำเอฟทีเอดังกล่าว
จะเป็นโอกาสผลักดันให้แคนาดาลดเลิกภาษีศุลกากร
ซึ่งจะช่วยสร้างแต้มต่อให้กับสินค้าศักยภาพของไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร
และสินค้าที่เป็นวัตถุดิบขั้นต้น โดยแคนาดาเป็นประตูบานสำคัญในการเข้าสู่ตลาดอเมริกาเหนือ
เนื่องจากมีความตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐฯ และเม็กซิโก นอกจากนี้
ยังเป็นประโยชน์กับสาขาบริการที่ไทยมีศักยภาพสูง โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร
ผู้ประกอบอาชีพพ่อครัวและแม่ครัว บริการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ในขณะที่ด้านการลงทุน
ความตกลงนี้จะช่วยดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงเข้าสู่ประเทศไทย
เช่น พลังงาน ขนส่ง โครงสร้างพื้นฐาน อิเล็กทรอนิกส์ การจัดการสิ่งแวดล้อม
และการเงิน เป็นต้น ซึ่งเป็นสาขาที่แคนาดามีความเชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ดี ไทยก็ต้องใช้ความรอบคอบในการเจรจา
โดยเฉพาะประเด็นที่ไทยอาจมีความอ่อนไหว
โดยคำนึงถึงความพร้อมและประโยชน์ภาพรวมของประเทศ ซึ่งจะต้องพิจารณาระยะเวลาปรับตัว
และการรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยกรมฯ
อยู่ระหว่างเตรียมการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ไทยสามารถจับมือกับอาเซียนและแคนาดาร่วมประกาศเปิดการเจรจาจัดทำเอฟทีเอ
อาเซียน-แคนาดา ได้ทันตามกำหนดการในเดือนกันยายนนี้
ทั้งนี้
การค้าระหว่างไทยกับแคนาดา ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564
มีมูลค่า 1,333.48 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยไทยส่งออกไปแคนาดามูลค่า 902.45 ล้านเหรียญสหรัฐ
เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 21.7% สินค้าส่งออกสำคัญ
เช่น อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ข้าว ผลิตภัณฑ์ยาง
เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ส่วนการนำเข้าจากแคนาดามีมูลค่า 431.03
ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.8% สินค้านำเข้าสำคัญ
เช่น พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์
เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ
------------------------------
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
13 สิงหาคม 2564