สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

กระทรวงอุตฯ เตรียมยกระดับกัญชง แปรรูปเป็นสินค้า มอก. พร้อมโกอินเตอร์
22/03/2021
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเดินหน้าผลักดันนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย โดยเฉพาะกัญชง ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนทั้งเปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน และราก โดยให้ถือเป็นวาระแห่งชาติในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและช่วยเหลือเกษตรกร ตลอดจนพัฒนานวัตกรรมทางการเกษตร ตามหลักBCG Model เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพทางด้านการเกษตรที่สามารถต่อยอดให้เป็นพืชเศรษฐกิจได้ ประกอบกับตลาดสินค้ากัญชงถือเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีแนวโน้มในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงได้สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เร่งรัดประกาศมาตรฐานสารสกัดจากกัญชง หลังจากที่บอร์ด สมอมีมติเห็นชอบมาตรฐานดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เช่น น้ำมันเมล็ดกัญชง สารสกัดกัญชง เปลือกกัญชง และแกนกัญชง ในการนำไปแปรรูปเป็นสินค้าประเภทยา  อาหาร  เครื่องสำอาง และสินค้าสมุนไพร เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการผลิตสารสกัดจากกัญชงให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และสามารถแข่งขันได้ในเชิงพาณิชย์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

ผมได้สั่งการให้ สมอเร่งรัดจัดทำมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) สินค้าเกษตรแปรรูปจากสมุนไพรไทย โดยเฉพาะกัญชง ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาสินค้าจากกัญชงให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และสามารถแข่งขันได้ในเชิงพาณิชย์ อย่างเป็นระบบและยั่งยืน เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจแก่ประเทศ” นายสุริยะฯ กล่าว

 

นายวันชัย  พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอขานรับนโยบายรัฐบาล และกระทรวงอุตสาหกรรม โดยได้มีการจัดทำมาตรฐานสารสกัดจากสมุนไพรไทยตามศักยภาพและความต้องการของภาคอุตสาหกรรมแล้ว จำนวน 29 มาตรฐาน เช่น สารสกัดขมิ้นชันผง  สารสกัดฟ้าทะลายโจรผง สารสกัดกระชายดำผง  สารสกัดกระเจี๊ยบแดงผง และสารสกัดบัวบกผง เป็นต้นและอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 18 มาตรฐาน เช่น น้ำมันหอมระเหยตะไคร้หอมไทย สารสกัดมะขามป้อมสารสกัดงาขี้ม่อน สารสกัดน้ำมันถั่วอินคา สารสกัดบุกบง และสารสกัดว่านหางจระเข้ผง  เพื่อให้สินค้ามีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และสามารถแข่งขันได้ในเชิงพาณิชย์ สำหรับมาตรฐานสารสกัดจากกัญชง สมอได้จัดทำมาตรฐานในชุดของ

 

กัญชงซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 6 มาตรฐาน เป็นมาตรฐานวัตถุดิบที่จะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่นยา เครื่องสำอาง อาหาร เครื่องดื่ม อาหารสัตว์ สิ่งทอ กระดาษ ยานยนต์ และวัสดุก่อสร้าง โดยบอร์ดสมอได้เห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา 5 มาตรฐาน ดังนี้

1. น้ำมันเมล็ดกัญชง (มอก.3171-2564)

2. สารสกัดจากกัญชงที่มีปริมาณ CBD รวม ไม่น้อยกว่า 30 % โดยมวล (มอก.3172-2564)

3. สารสกัดจากกัญชงที่มีปริมาณ CBD รวม ไม่น้อยกว่า 80 % โดยมวล (มอก.3173-2564)

4. เปลือกกัญชง (มอก.3184-2564)

5. แกนกัญชง (มอก.3185-2564)

ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 1 มาตรฐาน คือ เส้นใยกัญชง คาดว่าจะประกาศใช้ในเร็วๆ นี้ นอกจากบอร์ดจะเห็นชอบมาตรฐานสารสกัดจากกัญชงแล้ว ยังเห็นชอบมาตรฐานสารสกัดน้ำมันกฤษณาอีกด้วย

 

ในการประชุมบอร์ด สมอเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา บอร์ดได้เห็นชอบมาตรฐานรวมทั้งสิ้น 64 มาตรฐาน ทั้งที่เป็นสินค้าแปรรูปจากสมุนไพร สินค้าทั่วไป และสินค้าที่ สมอเตรียมประกาศควบคุมอีก 9 รายการด้วย เช่น ขวดน้ำดื่มพลาสติก เก้าอี้นวดไฟฟ้า  เครื่องฟอกอากาศ  กล่องพลาสติกบรรจุอาหารสำหรับการอุ่น และการอุ่นครั้งเดียวในไมโครเวฟ กระทะโลหะและหม้อที่ใช้ความร้อนจากเตาโดยตรงออกซิเจนทางการแพทย์ และไนทรัสออกไซด์ทางการแพทย์ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน” เลขาธิการ สมอกล่าวทิ้งท้าย

                                                                                              22 มีนาคม 2564

 

*หมายเหตุ     

1. “โดยมวล  หมายถึง  โดยน้ำหนักของสารสกัด

2. CBD ย่อมาจาก cannabidiol (สารแคนนาบิไดออลมีคุณสมบัติลดอาการเจ็บปวด บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด บรรเทาอาการนอนไม่หลับ

3. THC ย่อมาจาก  tetrahydrocannabinol (สารเตตราไฮโดรแคนนาบิไดออลเป็นสารเสพติดออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ทำให้เคลิบเคลิ้ม ผ่อนคลาย

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.