บอสใหญ่อิตัลไทย ปรับแผนรบ เผยสายงานอุตสาหกรรมหนัก ผันตัวจากดีลเลอร์สู่พาร์ทเนอร์ ชูเซอร์วิสดึงดูดใจลูกค้า รองรับเมกะโปรเจค ฝั่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เล็งเปิดขายแฟรนไชส์โรงแรม ต่อยอดการสร้างแบรนด์ไทยสู่ตลาดอินเตอร์
นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อิตัลไทย จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ผันตัวเองจากดีลเลอร์มาเป็นพาร์ทเนอร์กับทาดาโน่ แจแปน เพิ่มบริการหลังการขาย มีการทำวิจัย (r&d) และให้โอปอเรเตอร์เทรนนิ่งกับลูกค้า
"ธุรกิจรถยกจะบูมมาก ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า เพราะเมกะโปรเจคมากมายของรัฐบาลมันต้องใช้พวกรถยก" นายยุทธชัยกล่าว
ขณะเดียวกัน จากสภาพตลาดที่เปลี่ยนไปตามพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้ธุรกิจในรูปแบบเช่าซื้อ กำลังเป็นเทรนด์ที่จะเข้าสู่ตลาดไทย โดยปัจจุบันมีผู้เริ่มทดลองทำตลาดแล้ว อาทิ โตโยต้า ที่เริ่มทำระบบเช่าซื้อ 4-5 ปี ไม่ต้องจ่ายดาวน์ ไม่ต้องเสียประกัน และค่าบริหารจัดการ ศุภาลัย ทำโครงการบ้านราคา 1.5 ล้านบาท สำหรับคนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป สามารถเช่าซื้อจ่ายเป็นรายเดือนๆ ละ 2 หมื่นกว่าบาท
ในอนาคตซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้ กับระบบเช่าซื้อพร้อมคนขับ สำหรับธุรกิจรถทรัค ซึ่งจะช่วยให้ผู้รับเหมาตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ลดภาระต้นทุน ลดความเสี่ยง หากสัญญารับเหมาขาดความต่อเนื่อง
ส่วนธุรกิจอุตสาหกรรมบริการ ภายใต้ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป หนึ่งในบริษัทบริหารจัดการแบรนด์โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ และสปา ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริหารหลากหลายแบรนด์ที่แตกต่างและโดดเด่นทางด้านบริการ นั่นคือ อมารี โอโซ่ และชามา ที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ปัจจุบันออนิกซ์ฯ มีเครือข่ายที่เปิดให้บริการแล้ว 50 แห่ง ประกอบด้วยห้องพักจำนวนกว่า 7,000 ห้อง ใน 8 ประเทศ (รวมถึงเขตปกครองพิเศษ) ได้แก่ ไทย บังกลาเทศ กาตาร์ จีน ศรีลังกา มัลดีฟส์ สปป.ลาว และมาเลเซีย
นายยุทธชัย กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะทำแฟรนไชส์โรงแรม อาทิ แบรนด์โอโซ่ โดยกำลังพยายามสร้างแพลทฟอร์ม เพื่อผู้ที่สนใจนำแบรนด์โรงแรมนี้ไปบริหาร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยมุ่งเน้นที่ตลาดต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะที่ ออสเตรเลีย และจีน ซึ่งการขยายธุรกิจในลักษณะแฟรนไชส์ จะทำให้แบรนด์ขยายได้เร็วยิ่งขึ้น
ส่วนการลงทุนในปี 2563 บริษัทยังใช้งบอีกกว่า 1,000 ล้านบาท ขยายโรงแรมเพิ่มอีก 12 แห่ง ขนาด 200-300 ห้อง ที่ จีน มาเลเซีย ลาว ศรีลังกา ซึ่งส่วนใหญ่จะเปิดเป็น เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ไม่ได้ลงทุนคนเดียว เป็น management contract จะมีที่มัลดีฟที่เดียวที่บริษัทจะใส่เงินลงทุนเข้าไป
นอกจากนี้ ยังพยายามทำธูรกิจที่ซัพพอร์ตธุรกิจ hospitality อาทิ ไวน์ ชา น้ำแร่ กาแฟ เบเกอรี่ รวมไปถึงโรงงานซักผ้า เพื่อให้บริการกับธุรกิจโรงแรม และในอนาคต อาจลงทุนด้านการสร้างคนเพิ่มเติม เนื่องจากแรงงานในโรงแรม ขาดพนักงานด้านต่างๆ อีกจำนวนมาก ทำให้ตอนนี้ต้องคัดเลือกคนต่างชาติเข้าร่วมงาน