สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

รัฐบาลกล่อมนักลงทุน ขนข้อมูลการันตีศก.ไทยแกร่ง
30/08/2018
ข่าวเศรษฐกิจ
??????????š?????????????ˆ????????™??????????‡????????™ ??‚??™??‚??‰?????????????????????????™???????????.??„???????????????ˆ??‡

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษในงาน “Thailand Focus 2018: The Future is Now” จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่าขณะนี้ประเทศไทยเศรษฐกิจฟื้นตัวเต็มที่ และมีความโดดเด่นในอาเซียน ทั้งด้านภูมิศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางใน CLMVT(กัมพูชา ลาว เมียนมาและเวียดนาม) รวมทั้งเศรษฐกิจยุโรปอยู่ในภาวะถดถอย ขณะที่ CLMVT เศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 6-8% แต่สิ่งสำคัญที่สุดประเทศไทยต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยให้ข้อมูลความคืบหน้าในโครงการต่างๆที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแก่นักลงทุนซึ่งจะทำให้นักลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น

“ปีนี้คาดเศรษฐกิจไทยจะสูงกว่าที่ทุกสำนักประมาณการไว้ ซึ่งมั่นใจว่าทั้งปีจะขยายตัวกว่า 4.5% แน่นอน ครึ่งปีแรกขยายตัวได้แล้วกว่า 4.8% การส่งออกขยายตัวกว่า 10% ขณะที่เงินเฟ้ออยูที่ 1% เท่านั้นซึ่งเกิดจากการบริโภคของประชาชนและการบริโภคภาครัฐเป็นส่วนสำคัญ ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดการบริโภคเพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั้นส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลเร่งการใช้จ่ายด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่างๆทำให้หลายสำนักปรับประมาณการคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ซึ่งรัฐบาลจะทำงานหนักร่วมกับหน่วยงานต่างๆผลักดันโครงการต่างๆ ให้เป็นไปตามแผน”นายสมคิดกล่าว

การลงทุนในโครงการต่างๆของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นอีกหลายโครงการ โดยขณะนี้ระดับของหนี้สาธารณะปัจจุบันอยู่ที่ 40% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี แต่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นไม่เกินกว่า 45% เพราะแหล่งเงินของการลงทุนจะมา 3 ทาง คือ งบประมาณการเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนกับรัฐ และการออกกองทุนเพื่อการลงทุนในโครงการพื้นฐาน(ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์)

“รัฐบาลคาดว่าจะเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) ให้กับประชาชนได้ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ส่วนจำนวนเสนอขายนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม”นายสมคิดกล่าว

นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลเดินหน้าผลักดันการลงทุนขนาดใหญ่ที่สำคัญ เพื่อเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาค ทั้งการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-
ตะวันตก (East-West Economic Corridor -EWEC) รองรับการขนส่งจากเวียดนาม -สปป.ลาว-ไทย-เมียนมา เพื่อเชื่อมต่อไปยังเมืองย่างกุ้ง ผ่านตอนเหนือของไทย , โครงการลงทุนรถไฟไทย-จีน รองรับการขนส่งสินค้าจากจีน ผ่าน สปป.ลาว ผ่านไทย และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) รองรับการพัฒนาเมืองภาคตะวันออกให้เป็นท่าเรือขนาดใหญ่ผ่านไปยังเพื่อนบ้าน ขณะที่โครงการลงทุน Southern Economic Corridor: SEC หรือระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมจากเขตอีอีซีผ่านอ่าวไทย ต่อมายังระนองออกไปยังกลุ่มประเทศ BIMTEC ฝั่งทะเลอันดามัน และรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่กระจายทั่วทุกภาค การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลายด้านจะสร้างความเชื่อมั่นต่อแผนการลงทุนระยะยาว

“เมื่อนักลงทุนเห็นแผนชัดเจน จึงเริ่มมีการเจรจาการร่วมลงทุนกับไทยหลายโครงการ ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และอีกหลายประเทศตะวันตกเพราะไทยกำหนดแผนลงนามสิ้นปีนี้หลายโครงการ และยังพบว่าการขอรับส่งเสริมลงทุนช่วงที่ผ่านมา 70% อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย”

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า การที่รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจมาร่วมชี้แจงข้อมูลให้กับนักลงทุนต่างชาติ ทั้งการลงทุน การปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ จะสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนผ่านตลาดทุนมากขึ้น เพราะงานนี้มีนักลงทุนสถาบันต่างชาติทั่วโลกมาร่วมงานกว่า 161 ราย ขณะที่บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่มาร่วมงาน 115 ราย มูลค่าตลาดรวมกัน 13.65 ล้านล้านบาท คิดเป็น 78% ของตลาดรวม
ที่มาของข่าว: แนวหน้า

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.