สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

เบจบุ๊คชี้กลุ่มอุตฯสหรัฐกังวลมาตรการเก็บภาษีนำเข้า
20/07/2018
ข่าวเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ “เบจ บุ๊ค” เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า กลุ่มผู้ผลิตทั้งใน 12 เขตได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้า แม้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงขยายตัวในระดับปานกลางก็ตาม



รายงานเบจ บุ๊ค ซึ่งรวบรวมรายงานภาวะเศรษฐกิจจนถึงวันที่ 9 ก.ค.นั้น ระบุว่า กลุ่มผู้ผลิตในทุกเขตได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้า โดยหลายเขตรายงานว่า ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น และห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ได้รับผลกระทบจากมาตรการการค้าที่มีการนำมาใช้ในปัจจุบัน

เฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ระบุว่า ผู้ผลิตเครื่องจักรรายหนึ่งได้แจ้งให้ทราบว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กได้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ ยังทำให้การสั่งซื้อสินค้าไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ อีกทั้งยังทำให้ราคาสูงขึ้น และส่งผลให้เกิดภาวะแก่งแย่งกันซื้อสินค้าอย่างตื่นตระหนก

ขณะที่เฟดสาขาริชมอนด์ระบุว่า ผู้ผลิตรายหนึ่งแจ้งว่าเขาไม่ได้รับสินค้าเหล็กที่มีคุณภาพตามความต้องการของลูกค้าภายในประเทศ และคาดว่าอาจจะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับบริษัทคู่แข่งต่างชาติที่ไม่ต้องเผชิญผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก

รายงานเบจบุ๊ค ยังระบุด้วยว่า ต้นทุนการผลิตในหลายเขตปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้านั้น ส่งผลให้ราคาเชื้อเพลิง โลหะ และสินค้าประเภทอื่นๆปรับตัวสูงขึ้นด้วย

นอกจากนี้ รายงานระบุว่า ตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวและหลายเขตยังขาดแคลนคนงานที่มีศักยภาพ แต่การปรับขึ้นค่าจ้างยังคงอยู่ในระดับเล็กน้อยจนถึงปานกลาง

การเปิดเผยรายงานเบจบุ๊คครั้งล่าสุดนี้ มีขึ้นก่อนที่การประชุมเฟดครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค.นี้
ที่มาของข่าว: กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.