นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการประจำเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 1,015 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรม ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2561 อยู่ที่ระดับ 90.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 89.1 ในเดือนเมษายน
สำหรับค่าดัชนีฯที่เพิ่มขึ้นเกิดจากองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการซึ่งจากการสำรวจ พบว่า ในเดือนพฤษภาคม 2561 ค่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากผู้ประกอบการเห็นว่าภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศ ยังขยายตัวต่อเนื่อง และส่งผลดีต่อภาคการผลิต รวมทั้งการส่งออกได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า สะท้อนจากคำสั่งซื้อโดยรวมและยอดขายโดยรวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ มีแผนการขยายการลงทุนเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามจากการที่ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคม ขณะเดียวกันผู้ประกอบการส่งออกได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินบาท ทำให้สูญเสียรายได้จากการส่งออก
ทั้งนี้ผู้ประกอบการได้มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐควรเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดย่อมที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ สามารถนำเสนอแผนการลงทุน การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและการพัฒนานวัตกรรมการผลิต ต่อสถาบันการเงินโดยจัดทำเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ผู้ประกอบการ และสถาบันการเงิน
“ในครึ่งปีหลังยังมีปัจจัยที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ เรื่องการกีดกันทางการค้าของประเทศมหาอำนาจ เพราะมีบางกลุ่มที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมของไทย และอีกเรื่องคือการปรับดอกเบี้ย อยากให้ตรึงยาวไปก่อนจนถึงปลายปี เพราะมีความกังวลเรื่องเงินทุนไหลออก” นายสุพันธุ์กล่าว
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ระดับ 101.6 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากระดับ 102.2 ในเดือนเมษายน เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อการชะลอตัวของกำลังซื้อโดยเฉพาะในระดับภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ค่าดัชนีฯ ยังมีค่าเกิน 100 สะท้อนว่าผู้ประกอบการยังมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจอยู่ในระดับที่ดี
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นฯหากจำแนกตามขนาดของกิจการในเดือนพฤษภาคม 2561 จากการสำรวจพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นฯของอุตสาหกรรมขนาดย่อมขนาดกลาง และขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนทั้งหมด โดยองค์ประกอบดัชนีฯที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แก่ยอดรับคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวมปริมาณการผลิตต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมจำแนกตามการส่งออกต่อยอดขายในเดือนพฤษภาคม 2561 จากการสำรวจพบว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ กลุ่มที่เน้นตลาดในประเทศ และกลุ่มที่เน้นตลาดต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน โดยองค์ประกอบดัชนีฯที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ