ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2561 หอการค้าไทย จัดการประชุมใหญ่หอการค้าภาค 5 ภาค ประจำปี 2561 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมความคิดเห็นในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาค และการขับเคลื่อน Trade & Services 4.0 ในแต่ละพื้นที่ตามนโยบายหลักของหอการค้าไทย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง และปี 2561 โดยมั่นใจว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากเผชิญปัญหาการค้าโลกที่ผันผวน และค่อยๆ มีเสถียรภาพมากขึ้น โดยทางหอการค้าไทยจะมีการประเมินและปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจใหม่อีกครั้งในอีก 1 เดือนข้างหน้า
พร้อมมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4.5 การส่งออกขยายตัวร้อยละ 8-10 อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 31.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาน้ำมัน 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และดอกเบี้ยยังคงอยู่ที่ร้อยละ 1.5 และมีตัวเลขการท่องเที่ยวอยู่ที่ 38.6 ล้านคน
ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ ความไม่แน่นอนทางการเมือง หากไม่สามารถจัดการเลือกตั้งทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศได้ตามกำหนดจะส่งผลทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นด้านการบริโภค รวมถึงการลงทุนซึ่งมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม นอกจากนี้ ความกังวลต่อราคาสินค้าเกษตรที่ยังตกต่ำ ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงไม่เชื่อมั่นในการใช้จ่ายของภูมิภาค รวมถึงการใช้จ่ายของภาครัฐที่มีเม็ดเงินสูง แต่การขับเคลื่อนไปสู่ภาคประชาชนยังไม่เห็นผลอย่างแท้จริง การจ้างงานในภูมิภาคยังไม่เกิดขึ้น โดยทำไม่เร็วพอ
ส่วนกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจนั้น นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวล เนื่องจากรัฐบาลจะสามารถคัดเลือกบุคคล ซึ่งเป็นที่ยอมรับและสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้ นอกจากนี้ ยังมองว่านโยบายเศรษฐกิจต่างๆ จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากเป็นนโยบายที่รัฐบาลวางไว้ให้เดินหน้าในระยะยาว โดยการเปลี่ยนตัวบุคคลสานต่อนโยบายจึงไม่น่าจะส่งผลกระทบ
ด้านนางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินเศรษฐกิจภูมิภาคการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ว่า มีการฟื้นตัวดีขึ้น แต่เป็นการฟื้นตัวที่กระจุกอยู่ในบางพื้นที่ โดยยังไม่ได้กระจายออกไปอย่างเท่าเทียม ซึ่งบางพื้นที่เศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 4.8 ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณการของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ภาพรวม เนื่องจากโครงสร้างเศรษฐกิจแต่ละภูมิภาคแตกต่างกัน และบางส่วนยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ส่งผลต่อกำลังซื้อ และการจับจ่ายของภาคประชาชน ซึ่งมีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในแต่ละภูมิภาค