รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ เผยที่ประชุมผู้นำอาเซียนวันที่ 27-28 เม.ย.นี้ เน้นหารือประเด็นสงครามการค้า วิกฤตโรฮิงญาในเมียนมา และความตึงเครียดด้านความมั่นคงในทะเลจีนใต้
นายวิเวียน บาลากฤษนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ ในฐานะเจ้าภาพการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)ได้ตอบข้อถามเกี่ยวกับการที่อาเซียนใช้เวลานานในการแก้ไขปัญหาต่างๆภายในภูมิภาคว่า อาเซียนจะดำเนินการใด ๆ ได้ต่อเมื่อมีมติเอกฉันท์เท่านั้น สาเหตุที่ต้องใช้ระเบียบนี้ เนื่องจากเป็นการรวมกลุ่มที่มีความหลากหลายมาก มติเอกฉันท์จะทำให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ
รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ในรัฐยะไข่ว่าเป็นภัยพิบัติ เป็นโศกนาฏกรรมมนุษย์ อาเซียนมุ่งหาทางหยุดยั้งความรุนแรงและจัดส่งความช่วยเหลือ แต่ความรับผิดชอบทางการเมืองต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลเมียนมา
ขณะที่ข้อพิพาทเกี่ยวกับการอ้างสิทธิทับซ้อนในทะเลจีนใต้ มีความคืบหน้าไปมาก อาเซียนและจีน สามารถรวบรวมทุกอย่างไว้ในเอกสารฉบับเดียวคือแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้ แม้ว่ายังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่มากก็ตาม
รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ ยังกล่าวด้วยว่า รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีคลังอาเซียนที่จะประชุมร่วมกัน ก่อนการประชุมผู้นำจะแสดงความกังวลเรื่องความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน อาเซียนปรารถนาให้สหรัฐ ญี่ปุ่น จีน ยุโรป ทำงานร่วมกันภายใต้ระเบียบพหุภาคีของสถาบันนานาชาติ อย่าง องค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ)