ก.พาณิชย์ เผยส่งออกเดือนมี.ค.ทะลุ 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.06% มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ส่วนยอดรวมไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 11.29% สูงสุดรอบ 7 ปี...
เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2561 น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า เดือนมี.ค.61 การส่งออกมีมูลค่า 22,236.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.06% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และยังเป็นการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 697,074.1 ล้านบาท ลดลง 3.99% ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 21,094.7 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 9.47% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 666,326.2 ล้านบาท ลดลง 1.73% มีดุลการค้าเกินดุล 1,268.1 ล้านเหรียญฯ หรือ 30,747.9 ล้านบาท
ขณะที่ในช่วง 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.) ปี 61 การส่งออกมีมูลค่า 62,829.4 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 11.29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 7 ปี นับจากปี 55 ที่มีมูลค่า 54,639.7 ล้านเหรียญฯ เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 1.993 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.52% และการนำเข้ามีมูลค่า 60,872.8 ล้านเหรียญฯเพิ่มขึ้น 16.16% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 7.957 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.03% มีดุลการค้าเกินดุล 1,959.6 ล้านเหรียญฯ หรือ 36,090.1 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ทำให้การส่งออกในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น มาจากการค้าโลกขยายตัว เศรษฐกิจคู่ค้าฟื้นตัว ทำให้ไทยส่งออกได้เพิ่มขึ้น และคาดว่า มูลค่าการส่งออกในปี 61 จะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยูโรโซนที่ขยายตัวได้ดี ขณะที่ญี่ปุ่น จีน และเอเชีย ยังขยายตัวได้ดี และสินค้าเกษตรน่าจะราคาปรับตัวดีขึ้น ตามทิศทางราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ส่วนปัจจัยลบที่จะมีผลกระทบต่อการส่งออก ต้องจับตามาตรการกีดกันทางการค้า ที่จะกระทบต่อการส่งออก และค่าเงินบาทที่แข็งค่ามาก ?
”ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ยอมรับว่า ทำให้รายได้ของผู้ส่งออกเมื่อแลกเงินเหรียญสหรัฐฯ มาเป็นเงินบาท ลดลงมาก ซึ่งในเดือนมี.ค.ลดลงถึงกว่า 3% แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ดูแลอย่างใกล้ชิด และมีมาตรกรออกมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่รัฐบาลไทยคงไม่แทรกแซงค่าเงินบาท เพื่อประโยชน์ต่อการส่งออกเพียงอย่างเดียว ส่วนภาคการส่งออกสินค้าเกษตรที่ได้รับผลกระทบโดยตรงนั้น รัฐบาลคงต้องหามาตรการช่วยเหลือโดยเร็ว เพราะรายได้จากการส่งออกลดลงมาก และไม่ได้ประโยชน์ใดๆ จากค่าเงินบาทแข็งค่าเลย”?
สำหรับการค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ส่วนใหญ่ค้าขายด้วยเงินบาทนั้น ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างมาก ซึ่งในเดือนมี.ค.61 ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นแล้ว 10.4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ราคาส่งออกสินค้าไทยสูงขึ้นมาก และทำให้มูลค่าการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเดือนมี.ค.61 อยู่ที่ 56,699 ล้านบาท ลดลงถึง 13.69% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่วนนำเข้า อยู่ที่ 39,179 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.27% ได้ดุลการค้า 17,520 ล้านบาท ขณะที่ในช่วง 3 เดือน การส่งออกมีมูลค่า 159,339 ล้านบาท ลดลง 6.00% การนำเข้ามีมูลค่า 115,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% และได้ดุลการค้า 43,540 ล้านบาท.