สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

อุตฯดันโปรเจกท์EFC ตลาดกลางผลไม้ทำเงิน5หมื่นล้าน
06/02/2018
ข่าวเศรษฐกิจ
อุตฯดันโปรเจกท์EFC ตลาดกลางผลไม้ทำเงิน5หมื่นล้าน

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม หารือร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนในพื้นที่ภาคตะวันออกประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์ เพื่อเสนอที่ประชุมครม.พิจารณาโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (Eastern Fruit Corridor : EFC) หวังเป็นตลาดกลางประมูลผลไม้คุณภาพสูง

นายอุตตมกล่าวว่าปัจจุบันการซื้อขายผลไม้ของเกษตรกรมักตกลงราคาซื้อขายกันล่วงหน้าระหว่างเกษตรกรและผู้ซื้อโดยตรง ซื้อขายผลไม้แบบยกสวน และจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าให้เกษตรกรผู้ผลิต ทำให้เกษตรกรไม่สามารถต่อรองราคาผลไม้ได้ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงต้องการสร้างมาตรฐานระบบการซื้อขายผลไม้ให้เป็นสากลเชื่อมโยงกับผู้ค้าในตลาดโลก เกษตรกรมีอำนาจต่อรองด้านราคากับผู้ซื้อได้

สำหรับโครงการ EFC ตั้งอยู่ในนิคม Smart Park จ.ระยอง ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ใช้งบประมาณ 1,580 ล้านบาท คาดว่ามีมูลค่าการลงทุนและการซื้อขายผลไม้ในโครงการ EFC ประมาณ 51,931 ล้านบาท โดยระบบตลาดกลางประมูลผลไม้คุณภาพสูงของภาคตะวันออกมีแนวทางการพัฒนาระบบที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล พัฒนาระบบมาตรฐานสินค้าเกษตร ด้วยระบบตลาดประมูลไม้ดอกจากประเทศเนเธอร์แลนด์มาประยุกต์ให้เป็นระบบตลาดประมูลซื้อขายผลไม้

จากโครงการดังกล่าวคาดว่าจะทำให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า ลดปัญหาผลผลิตทางการเกษตรขาดแคลน หรือล้นตลาด แก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้เกิดการลงทุนใหม่ของนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องเกษตร มีมูลค่าการส่งออกผลไม้สดและผลไม้แปรรูปเพิ่มขึ้น เกิดการจ้างงานใหม่ในพื้นที่ภาคตะวันออก และลดภาระงบประมาณของรัฐบาลในการอุดหนุนราคาสินค้าเกษตรระยะยาว

นอกจากนี้เอกชนมีความต้องการให้รัฐบาลช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้มีแนวทางแก้ไข โดยใช้มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารธุรกิจ SME มีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2561-2563 โดย SME ที่เข้าร่วมโครงการจะลดต้นทุนการผลิตได้ 10% ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายหรือลด ต้นทุนได้ประมาณ 3-5% ของต้นทุนทั้งหมด

นายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม กล่าวภายหลังลงพื้นที่เยี่ยมชมโรงงานของบริษัท สยามโปรฟรุตส์ จำกัด ตำบลแสลง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ผู้ผลิตน้ำผลไม้และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ว่าได้ร่วมหารือกับผู้บริหารบริษัท ที่มีปัญหาการขยายกิจการ ไม่สามารถสร้างห้องเย็นได้ เนื่องจากยังรอประกาศใช้ผังเมืองจันทบุรีใหม่ ที่มีการแก้ไขแล้ว จึงทำให้ปัจจุบันนี้ไม่มีห้องเย็นเก็บวัตถุดิบที่รับซื้อจากชาวสวนจึงต้องใช้วิธีการเช่าห้องเย็นเป็นรายเดือนซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 1 ล้านบาท ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลประกาศใช้กฎหมายผังเมืองเพื่อผู้ประกอบการสามารถขยายโรงงาน และสร้างห้องเย็นได้

ทั้งนี้จะนำปัญหาดังกล่าวรายงานให้ครม.ได้รับทราบ พร้อมได้สั่งการให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) เร่งรัดการปล่อยเงินกู้สินเชื่อ SME ที่ผ่านการให้ความเห็นชอบจากคณะกรรมการระดับจังหวัดแล้ว เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในเบื้องต้นและเป็นทุนให้ผู้ประกอบการพร้อมที่จะขยายโรงงานได้ทันที เมื่อกฎหมายผังเมืองประกาศใช้

นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงเกษตร วิสาหกิจชุมชนเกษตรเพื่อสุขภาพบ้านปัถวี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี หนึ่งในโครงการหมู่บ้าน อุตสาหกรรมชุมชนเชื่อมโยงการท่องเที่ยว (CIV4.0) ตามมาตรการยกระดับเศรษฐกิจฐานชุมชน (Local Economy) โดยหมู่บ้านแห่งนี้มีความต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานโดยรอบหมู่บ้าน เพื่อรองรับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวของหมู่บ้านอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ และปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวหมู่บ้านเพิ่มขึ้นในอนาคต
ที่มาของข่าว: แนวหน้า

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.