นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายน 2560 อยู่ที่ระดับ 87.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 85.9 สูงสุดในรอบ 8 เดือน เทียบจากเดือนเมษายน 2560 อยู่ที่ระดับ 86.4 เนื่องจากมีแรงกระตุ้นการใช้จ่ายและการบริโภคจากการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยเฉพาะมาตรการช็อปช่วยชาติระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม 2560 มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการภาครัฐรวมทั้งมีการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อจำหน่ายและส่งมอบให้ทันก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่งผลให้อุปสงค์ในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งจะเห็นได้จากดัชนียอดคำสั่งซื้อและยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 102.0 ลดลงจากก่อนอยู่ที่ระดับ 103.3 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อระดับราคาสินค้าเกษตรที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่กระทบต่อภาคการส่งออก และนโยบายการค้าระหว่างประเทศของประเทศคู่ค้าสำคัญ
นายเจนกล่าวว่า ผู้ประกอบการมีข้อเสนอให้รัฐร่วมกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมแรงงาน เพื่อยกระดับผลิตภาพแรงงานอย่างบูรณาการและตรงตามความต้องการของตลาด ควรสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม การลงทุนวิจัยและพัฒนาให้ผู้ประกอบการ SMEs เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ในการดำเนินธุรกิจผ่าน E-Commerce เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายสินค้ามากขึ้นรวมถึงการเพิ่มการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สอท. กล่าวว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดี ขึ้นต่อเนื่องตามประมาณการสำนักพยากรณ์ต่างๆ ที่คาดเศรษฐกิจไทยปี 2561 จะขยายตัวได้ 3.8-4% สอท.จึงประเมินภาพรวมตลาดรถยนต์ปีหน้าน่าจะเติบโตได้ 2% เป็นทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจ โดยสอท.ประมาณการยอดผลิตรถยนต์ ปี 2561 อยู่ที่ 1.97 ล้านคัน โดยเป็นยอดผลิตขายในประเทศอยู่ที่ 8.7 แสนคันขณะที่ผลิตเพื่อส่งออกรถยนต์ปีหน้าเป้าหมายคงเท่ากับปีนี้ที่ 1.1 ล้านคัน เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าจากต่างประเทศที่ต้องติดตามว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดส่งออกรถยนต์ของไทยหรือไม่
สำหรับยอดผลิตรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2560 ผลิตได้ 190,385 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.48% สูงสุดในรอบ 20 เดือน จากการผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 32.81% อยู่ที่ 70,236 คัน และรถยนต์นั่งเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 57.86% อยู่ที่ 44,232 คัน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่สาม และเชื่อว่าภาวะตลาดรถยนต์ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ส่งผลให้ 11 เดือนของปีนี้มีจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ทั้งสิ้น 1,831,616 คัน เพิ่มขึ้น 1.27%
โดยยอดขายในประเทศเดือนพฤศจิกายน2560 มีทั้งสิ้น 78,082 คันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20.6% สูงสุดในรอบ 8 เดือน จากความนิยมอย่างต่อเนื่องในรถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งค่ายรถยนต์ต่างๆ ได้ทยอยแนะนำเข้าสู่ตลาด นักท่องเที่ยวต่างประเทศยังคงมาเที่ยวมากขึ้น การส่งออกขยายตัว การลงทุนภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัว รวมทั้งการเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐบาลที่เร่งตัวขึ้น
“ส่วนหนึ่งยังเป็นผลจากยอดจองรถยนต์ ในงานมหกรรมยานยนต์ (มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2017) ปีนี้ทำได้ 39,832 คัน ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 40,000 คันสูงกว่าปีก่อนที่มียอดจอง 36,000-37,000 คัน สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่จำแนกตามรายอุตสาหกรรม จะเห็นว่าดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องจักรกลเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 100 เป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 ปี 2 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2556” นายสุรพงษ์กล่าว
ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 103,042 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.64% จากการส่งออกรถกระบะเพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดยุโรปและตลาดอเมริกาเหนือคิดเป็นมูลค่าการส่งออกรถยนต์ 54,059.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.77%