นายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม25460 ได้เห็นชอบมาตรการพิเศษเพื่อขับเคลื่อนเอสเอ็มอีสู่ยุค 4.0 วงเงินรวม 2.45 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ1.มาตรการด้านการเงินที่ได้รับการชดเชยดอกเบี้ยจากรัฐบาล วงเงิน 8 หมื่นล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงาน 1.67 แสนราย สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 3.7 แสนล้านบาท และ 2.มาตรการสินเชื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐหรือ แบงก์รัฐ อีก 1.65 แสนล้านบาท
สำหรับรายละเอียดในส่วนมาตรการด้านการเงิน 8 หมื่นล้านบาท นั้นได้รับงบประมาณเพื่อชดเชยดอกเบี้ยจากรัฐบาลจำนวน 1,485 ล้านบาทต่อปี รวม 7 ปี ในกรอบวงเงินไม่เกิน 6,395 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการฟื้นฟูและเสริมศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสำหรับเอสเอ็มอีคนตัวเล็กวงเงิน 8,000 ล้านบาท โดยจะดึงเงินมาจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ซึ่งจะมีการปรับปรุงเงื่อนไข แต่ยังคงคุณสมบัติเดิมคือต้องเป็นนิติบุคคล สนับสนุนนโยบายกระทรวงการคลังให้เอสเอ็มอีเข้าในระบบผ่านการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และมาตรการฟื้นฟูกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วงเงิน 2,000 ล้านบาทผ่านงบประมาณของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) โดยทั้งหมดปล่อยกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท
ส่วนธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) มีโครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อดูแลเศรษฐกิจชุมชน เน้นวิสาหกิจท่องเที่ยว ร้านอาหาร ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ให้เป็นสินค้าของฝากและเกษตรแปรรูป คิดดอกเบี้ย 3% โดยให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกัน วงเงินกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย ขณะที่โครงการ ทรานฟอร์เมชั่นโลน เสริมแกร่ง เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ผ่านธนาคารออมสิน ดอกเบี้ย 4% คงที่ 7 ปี ปล่อยกู้ไม่เกิน 15 ล้านบาท
ส่วนรายละเอียดมาตรการให้สินเชื่อ 1.65 แสนล้านบาท เป็นของ ธนาคารกรุงไทย 2 หมื่นล้านบาท เป็นโครงการใหม่ 7,500 ล้านบาท สนับสนุน เอสเอ็มอีโลจิสติกส์ โฮมสเตย์ ท่องเที่ยว ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และเป็นโครงการต่อเนื่องจากปี 2560 วงเงิน 12,500 ล้านบาท ส่วนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงิน 9.5 หมื่นล้านบาท เป็นสินเชื่อเกษตรอย่งยั่งยืน 5 หมื่นล้านบาท และปรับเปลี่ยนการผลิต 4.5 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ ธนาคารออมสิน มีวงเงินสินเชื่อ 4.5 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้ให้กับกลุ่มสตาร์ทอัพ แฟรนไชส์ สินเชื่อสนับสนุนบัญชีเดียว และฟู้ดทรัค ส่วนธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพื่อการส่งออก