นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค. ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจหรือจีดีพีของประเทศใน 2560 ใหม่โดยคาดว่าจะขยายตัว 3.8% ซึ่งมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.6-4.0% เร่งขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 3.2% และเป็นการขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าเดิมจะขยายตัวได้ 3.6% ปัจจัยสนับสนุนหลักจากการส่งออกสินค้าและบริการที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วงปีหลัง
อย่างไรก็ตามในส่วนของการลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มชะลอลงจากการเบิกจ่ายลงทุนภายใต้งบเพิ่มเติมปี 2560 ที่ค่อนข้างเป็นไปอย่างล่าช้า แต่คาดว่าจะทยอยเบิกจ่ายและเป็นแรงสนับสนุนเศรษฐกิจในปีถัดไป โดยในปี 2561 คาดว่าลงทุนภาครัฐจะขยายตัวได้ 11.9%
สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.8% เช่นกันโดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.3-4.3% โดยมีการใช้จ่ายภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ตามกรอบรายจ่ายลงทุนภาครัฐประจำปีงบประมาณ 2561 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้การลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้น และความชัดเจนเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งยังจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและช่วยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนในประเทศได้มากขึ้น
“การประมาณการเศรษฐกิจไทยล่าสุดได้รวมกับปัจจัยน้ำท่วมแล้ว แต่ปัญหาอุทกภัยเป็นปัญหาที่คุ้นชินในทุกปี มีทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง ซึ่งมาตรการที่มีอยู่จะเพียงพอต่อการดำเนินการ และต้องคำนึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย และการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศพัฒนาแล้ว”
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน กล่าวว่าการปรับประมาณการเศรษฐกิจใหม่ อยู่ภายใต้สมมุติฐานจากปัจจัย 7 ด้านคือ 1.ด้านเศรษฐกิจคู่ค้า ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลกต่อเนื่อง คาดว่าเศรษฐกิจโลกขยายตัว 3.72% ในปีนี้ 2.อัตราแลกเปลี่ยนคาดการณ์คงที่เฉลี่ยทั้งปี 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ 3.ราคาน้ำมันดิบดูไบ ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ระดับ 51.8 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล 4.ภาคการส่งออกขยายตัวสูงกว่าคาด โดยคาดปีนี้จะขยายตัวได้ 8.5%
ส่วนปัจจัยที่ 5 คือจำนวนนักท่องเที่ยว โดย 9 เดือนมีปริมาณนักท่องเที่ยว 26.1 ล้านคน และปรับคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปีอยู่ที่ 35.8 ล้านคน จากเดิม 35 ล้านคน คิดเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยว 1.86 ล้านล้านบาท 6.อัตราดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังไม่ปรับดอกเบี้ยนโยบายโดยคงไว้ 1.5% ทั้งในปี 2560 และปี 2561 และปัจจัยที่ 7 คือ รายจ่ายภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ที่มีแผนการลงทุนอย่างต่อเนื่องตามแผน Action Plan ปี 2559 และปี 2560
สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนกันยายน 2560 มีสัญญาณของการขยายตัวแบบกระจายตัวมากขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชนที่มีการขยายตัวในอัตราเร่งมากขึ้น โดยการฟื้นตัวมีการกระจายตัวมากขึ้นช่วยให้เศรษฐกิจ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2560 ขยายตัวได้ดี โดยมีการส่งออกสินค้าและบริการเป็นเครื่องยนต์หลัก เสริมด้วยการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวได้ดีจากไตรมาสก่อน ในขณะที่การใช้จ่ายภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดีและช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่การสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค ประจำเดือนตุลาคม 2560 ของกระทรวงการคลังพบว่าข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดล่าสุด จากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) อยู่ในระดับที่ดีขึ้นกว่าเดือนก่อนในทุกภูมิภาค นำโดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคเหนือ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการและการลงทุนภายในแต่ละภูมิภาค