นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... เพื่อธุรกิจสตาร์ตอัพ ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วหลังจากที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้นำร่าง พ.ร.บ.แก้ไขฉบับดังกล่าวรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนและผู้ประกอบการกลุ่มสตาร์ตอัพ จำนวน 4ครั้ง รวมทั้ง รับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ของกรมฯ ที่ www.dbd.go.th โดยหลังจากนี้ สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะส่งร่างกฎหมายฯ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ซึ่งหากผ่านการพิจารณาแล้ว ก็จะส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา 3วาระ ก่อนตราเป็นกฎหมายบังคับใช้ต่อไป
สำหรับหัวใจหลักของการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายฯ คือ ช่วยลดอุปสรรคในการประกอบธุรกิจของสตาร์ตอัพ และเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ โดยสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้แบ่งออกตามวัตถุประสงค์ 2 ประเด็น คือ เพื่อดึงดูดนักลงทุนและสร้างแรงจูงใจในการเข้ามาร่วมลงทุน ซึ่งสาระที่ปรับแก้ ได้แก่ นักลงทุนหรือเจ้าหนี้สามารถเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทได้ รวมถึงเพื่อสร้างแรงจูงใจการทำงานให้แก่พนักงานและผู้บริหาร ซึ่งสาระที่ปรับแก้ได้แก่ ทยอยให้หุ้นแก่พนักงาน เพื่อเป็นการตอบแทนการทำงาน ซึ่งจะทำให้พนักงานรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นเจ้าของกิจการ
“การแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายเพื่อธุรกิจสตาร์ตอัพ เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ผู้ประกอบการกลุ่มสตาร์ตอัพสามารถจัดตั้งบริษัท และดำเนินกิจการได้คล่องตัวมากขึ้น และดึงดูดให้นักลงทุนทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนกับธุรกิจสตาร์ตอัพในไทย”.