นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ส.ค.2560 ที่ผ่านมา ดีต่อเนื่อง เป็นผลจากได้รับแรงขับเคลื่อนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวระดับสูงเฉลี่ย 13.2% และเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 55 เดือน โดยหมวดสินค้าสำคัญ คือ ทองคำ อัญมณีและเครื่องประดับ เกษตรกรรม อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยาง ขณะที่ประเทศคู่ค้าสำคัญ คือ อาเซียน+9 ประกอบด้วย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ส่วนมูลค่าการนำเข้าเดือน ส.ค.ขยายตัว 14.9% โดยกลุ่มสินค้าสำคัญคือเชื้อเพลิง ทองคำ สินค้าทุน และสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่ดุลการค้าเดือน ส.ค.เกินดุล 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ขณะที่การใช้จ่ายภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะการบริโภค ซึ่งสะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่ขยายตัว 14.7% ขยายตัวสูงสุดในรอบ 54 เดือน และการลงทุนในเครื่องมือเครื่องจักรขยายตัวได้ดี สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุนเดือน ส.ค.ที่ขยายตัว 5.5% ต่อปี ด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม เดือน ส.ค.2560 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 62.4% เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคคาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้น ตามแนวโน้มการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดีขึ้น รวมถึงโครงการลงทุนของภาครัฐที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ดีในช่วงที่เหลือของปี
ส่วนการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา สศค.เชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนกรณีที่ ธปท.ปรับประมาณการตัวเลขจีดีพีปีนี้ใหม่ว่า จะขยายตัว 3.8% มีโอกาสเป็นไปได้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่องและการส่งออกในเดือนที่ผ่านมาสูงถึง 13% ส่วน สศค.จะมีการปรับตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจหรือไม่นั้น ต้องติดตามตัวเลขอีกครั้งในเดือนหน้า นอกจากนี้ สศค.ยังรายงานผลการจัดเก็บรายได้รัฐสุทธิในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 (ต.ค.59-ส.ค.60) รัฐจัดเก็บรายได้สุทธิ 2,132,067 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 1,961 ล้านบาท.