"รมว.คลัง" เตรียมปรับแผนส่งเสริมการลงทุนอีอีซี หลังเอกชนขนาดใหญ่มองไม่คุ้มค่าการลงทุน ชี้มาตรการภาษีหนุนการลงทุน 1.5 เท่ายังไม่ประกาศใช้ ทำขาดความเชื่อมั่น
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยยอมรับว่า เอกชนขนาดใหญ่ยังไม่สนใจลงทุน เนื่องจากการลงทุนภาคเอกชนนั้น จะต้องดูความคุ้มค่าในการลงทุน ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเร่งสร้างสภาพแวดล้อม และเตรียมพร้อมมาตรการต่างๆ โดยในปัจจุบัน พบว่า มาตรการด้านภาษีในการส่งเสริมการลงทุน 1.5 เท่า ยังไม่ประกาศใช้ ส่งผลให้เอกชนยังขาดความเชื่อมั่น ประกอบกับ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่า เอกชนไปลงทุนในต่างประเทศมาก เนื่องจากต้นทุนถูก ราคาสินทรัพย์ต่ำ เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ดังนั้น เอกชนจึงมองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
"เราเห็นว่า ควรทบทวนแผนการส่งเสริมการลงทุนในอีอีซีใหม่ เพราะที่ผ่านมาเอกชนขนาดใหญ่มองว่า อาจไม่คุ้มค่าหากจะย้ายโรงงาน และส่วนใหญ่มีโรงงานอยู่แนวชายแดน ดังนั้น จึงมีแนวคิดอยากส่งเสริมกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ที่เน้น วิจัย พัฒนา และเน้นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วย ซึ่งเราเชื่อว่า เมื่อต่างประเทศสนใจเข้าไปลงทุนมาก เอกชนของไทยจะตามแน่นอน" นายอภิศักดิ์ กล่าว
ส่วนมาตรการผู้มีรายได้น้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปมาตรการ และให้นักศึกษาลงพื้นที่สำรวจความต้องการของผู้มีรายได้น้อย โดยดำเนินการแล้ว 80-90% โดยมั่นใจว่า ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะสามารถแจกบัตรสวัสดิการให้กับผู้มีรายได้น้อยได้แน่นอน และบัตร 10 กว่าล้านบาท จะต้องพร้อมมอบให้กับประชาชนได้
สำหรับกรณีที่กระทรวงคมนาคม ระบุว่า ขณะนี้รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ไม่สามารถเข้าคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการกู้เงินของกระทรวงการคลัง นั้น ยืนยันว่า ไม่ได้ติดปัญหาที่คลังแน่นอน เพราะกระทรวงการคลังได้วางงบประมาณกู้เงินของปีงบประมาณ 2561 ไว้เรียบร้อยแล้ว ตามวงเงินที่จะต้องใช้ทั้งหมด 1.7 แสนล้านบาท แต่จะใช้ทั้งหมดหรือไม่นั้น อยู่ที่ข้อตกลงของกระทรวงคมนาคม
นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้า การหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในการจัดตั้งกองทุนพัฒนาตลาดทุนไทย หรือ CMDF ว่า กระทรวงพร้อมที่จะหารือกับทางตลท. ซึ่งยังไม่สามารถระบุวันได้ว่าจะหารือในวันไหน หรือ เวลาใด เนื่องจากต้องรอ ตลท.พร้อม