นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ร่วมเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น พร้อมคณะของ นายสมคิดจาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ระหว่างวันที่ 4-9 มิถุนายน 2560 เพื่อหาทางสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจด้านต่างๆ
โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ผลักดันให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจและบันทึกแสดงเจตจำนง จำนวน 5 ฉบับ เพื่อแสดงความร่วมมือในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมเป้าหมาย การพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมทั้งการส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ของทั้งสองประเทศด้วย
สำหรับรายละเอียดของการลงนามบันทึกความเข้าใจในส่วน ของกระทรวงอุตสาหกรรมมี 2 ฉบับ คือ 1) บันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กับ จังหวัดฟุกุชิมา มีเนื้อหาสำคัญของบันทึกความเข้าใจคือ การพัฒนาและเชื่อมโยง SMEs ของไทยและญี่ปุ่น โดยมุ่งเน้นการยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve ในอนาคตของไทย
2) บันทึกความเข้าใจ (MOU) 3 ฝ่ายระหว่างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) และ สมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์แห่งฟุกุชิมา (FMDIPA) ซึ่งเป็นผลมาจากการเจรจาความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และจังหวัดฟุกุชิมา ที่ก่อให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในการส่งเสริมอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ โดยหน่วยงานทั้ง 3 แห่ง จะร่วมมือกันต่อยอดงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ของ SMEs ของไทย และ ฟุกุชิมาให้มีมาตรฐานเพื่อการขยายตลาดทั้งในไทย อาเซียนและญี่ปุ่น
นายวินิจ ฤทธิ์ฉิ้ม ประธานกลุ่มคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และเจ้าของบริษัทออโธพีเซีย กล่าวว่า เครื่องมือแพทย์และสุขภาพ นับเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญและมีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดรายได้และการจ้างงานเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเครื่องมือที่ผู้ผลิตไทยทำได้ แต่ยังไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากแพทย์คนไทย เช่น เครื่องมือแพทย์ชนิดพิเศษขนาดใหญ่อย่างที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ทั้งที่ผู้ผลิตไทยสามารถผลิตเองได้ ไม่มีตลาดรองรับ ดังนั้น หน่วยงานรัฐจึงมีความจำเป็นมากที่ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยการลงนามความร่วมมือกับฟุกุชิมาในครั้งนี้ จะช่วยปิดจุดอ่อนในเรื่องมาตรฐาน และเพิ่มความน่าเชื่อถือของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยด้วย