“อุตตม”เดินสายขอความร่วมมือภาคเอกชนหนุนพัฒนาเอสเอ็มอีไทยตามโครงการประชารัฐ ระบุ ธพว.เตรียมประกาศรับคำขอกู้เงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี วงเงิน37,000 ล้านบาท 30 เม.ย.นี้

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยภายหลังหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นร่วมกับคณะกรรมการหอการค้าไทยเกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐของกลุ่มจังหวัดและจังหวัด ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ว่ารัฐบาลมีมาตรการพัฒนาเอสเอ็มอีใหม่ ซึ่งจะมีผลเร็วๆนี้โดยรัฐบาลมีความจริงจังที่จะให้การพัฒนาเอสเอ็มอีเป็นไปอย่างมีระบบและเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนต่อเนื่องมีการตั้งกองทุนช่วยเหลือเอสเอ็มอี วงเงินรวม 37,000 ล้านบาท ประกอบด้วย1.กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ 20,000 ล้านบาทซึ่งวางเป้าหมายช่วยเหลือสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ด้านการเงินรวม 2,000 ราย 2. กองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอีของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) วงเงิน 2,000ล้านบาท และ3.สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (SME Transformation Loan) วงเงิน15,000 ล้านบาท ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) โดยมาตรการใหม่ที่ทางรัฐบาลได้มีการออกมานั้นประกอบไปด้วยมาตรการทางการเงิน และข้อเสนอพิเศษ ได้แก่ การให้ความรู้ คำแนะนำและความช่วยเหลือด้านต่างๆซึ่งเป็นไปกลไกตามแนวประชารัฐเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
“ตามแนวทางใหม่นี้จะมีอยู่ 2 ประการ คือ1.รัฐบาลจะมีเครือข่ายสนับสนุนเอสเอ็มอีประจำจังหวัดโดยอาศัยอุตสาหกรรมประจำจังหวัดทั่วประเทศ เป็นจุดตั้งต้นในการดูแล 2.การตั้งคณะกรรมการเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐประจำจังหวัดโดยมีองค์ประกอบทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งภาคการศึกษานอกจากนั้นยังขอความร่วมมือจากทางสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศในการมีบทบาทร่วมกับคณะกรรมการฯเพื่อช่วยเหลือพัฒนาเอสเอ็มอีให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศเริ่มจากการพัฒนากลุ่มคลัสเตอร์จังหวัดแต่ละจังหวัดให้มีแผนงานในกลุ่มที่เป็นความร่วมมือของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและกระทรวงอุตสาหกรรม
ช่วยกันดูแลให้เป็นไปตามกลไกประชารัฐโดยมีคณะกรรมการสานพลังประชารัฐด้านการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและวิสาหกิจเริ่มต้น(D2)เป็นหลักในการขับเคลื่อน โดยในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ จะนำมาตรการช่วยเหลือร่างข้อเสนอแนะ และแนวทางการดำเนินงานเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการสานพลังประชารัฐด้วย”นายอุตตมกล่าว
ทั้งนี้ในวันที่ 30 เมษายนนี้ ทางธพว.พร้อมที่ประกาศรับคำขอกู้เงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี วงเงิน37,000 ล้านบาท พิจารณาจากความพร้อมของผู้กู้ว่าอยู่ในอุตสาหกรรมประเภทใดและตรงตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดโดยเรื่องนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศและคณะกรรมการเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐประจำจังหวัดซึ่งได้รับรายงานว่าในขณะนี้จังหวัดที่มีความพร้อมมากที่สุดทุกด้าน คือจังหวัดพิษณุโลกแต่ขณะเดียวกันการพิจารณาของจังหวัดอื่นๆก็ยังเดินหน้าต่อไป ทั้งนี้คาดว่าการพิจารณาจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 30 วันโดยจะสามารถจ่ายเงินกู้ก้อนแรกให้กับเอสเอ็มอีที่ได้รับการปล่อยเงินกู้ได้ในสัปดาห์ที่4 ของเดือนพฤษภาคม.