นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ฐานอุตสาหกรรมใหม่:ระเบียบเศรษฐกิจตะวันออก” ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี)ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันที่ 5 เมษายน 2560 จะมีการเสนอรายงานผลการประชุมของ คณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กรศ.) ที่เห็นชอบประกาศให้สนามบินอู่ตะเภา 6,500 ไร่ เป็นเมืองการบินภาคตะวันออกให้เป็นเขตส่งเสริมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก พร้อมรายงานความคืบหน้า 5 โครงการหลักที่เร่งรัดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมได้เร็วที่สุด รายงานความคืบหน้ารถไฟความเร็วสูงสามารถเชื่อม 3 สนามบินได้อย่างไร้รอยต่อ นอกจากนี้จะรายงานความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือ รวมถึงการศึกษาเรื่องการสร้างเมืองใหม่ โดยเฉพาะ “เมืองฉะเชิงเทรา”
ขณะนี้มีนักลงทุนรายใหญ่ระดับโลกทั้งในประเทศ และต่างประเทศให้ความสนใจสอบถามสิทธิประโยชน์การลงทุนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เช่น บริษัทโรลส์-รอยซ์, แอร์บัส, กลุ่มอีคอมเมิร์ช, นวัตกรรมหุ่นยนต์, รถไฟ, รถยนต์ และอุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งถือเป็นโรดแมปให้ประเทศไทยเคลื่อนไปในทิศทางที่ถูกต้องบนยุทธศาสตร์ “ประเทศไทย 4.0” เป็นระบบเศรษฐกิจที่อาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง ดังนั้นผู้ประกอบการไทยจึงต้องปรับตัวยกระดับการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มให้สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้
ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายพัฒนาพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ให้มีความพร้อมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษาและสิ่งแวดล้อม และต้องการให้อีอีซีเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกับการพัฒนาระเบียบเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ และระเบียงตะวันออก-ตะวันตก
ในวันเดียวกัน นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.รคลัง กล่าวในงาน SET in the city 2017 ว่า การปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐาน ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะด้านคมนาคม ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของประเทศไทยให้เพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ เนื่องจากในปัจจุบันพบว่า ในเรื่องของระบบการขนส่งของไทยนั้นยังล้าหลัง เช่น ในเรื่องของรถไฟรางคู่
ส่วนการปฏิรูปภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากพบว่าอุตสาหกรรมของไทยในปัจจุบันนี้ยังคงเป็นอุตสาหกรรมเดิมเหมือนเช่นใน 20 ปีที่ผ่านมาและเข้าสู่วงจรในช่วงขาลง ดังนั้นกระทรวงการคลังจึงไม่สามารถปล่อยให้ภาคอุตสาหกรรมของไทยเข้าสู่ช่วงขาลงโดยที่ไม่ดำเนินการช่วยเหลือได้ จึงได้เสนอ New S-Curve ที่ไทยมีโอกาสที่จะแข่งขันในตลาดโลกได้เป็นอย่างดี เพื่อปรับปรุงอุตสาหกรรมเหล่านี้ให้หันมาเน้นการใช้เทคโนโลยีมากขึ้นไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว และการจะทำให้สิ่งนี้เกิดได้เป็นรูปธรรมเร็วขึ้น รัฐบาลจึงได้มีโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เพื่อเป็นจุดดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในไทย
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะเน้นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ การส่งเสริมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตร แต่นโยบายดีก็ต้องดำเนินควบคู่ไปกับการมีรัฐบาลที่เข้มแข็ง มีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเน้นวางแผนบริหารประเทศเพียงระยะสั้น เพื่อทำตามความต้องการของประชาชนที่ให้การสนับสนุน ทั้งการวางแผนระยะยาวจะช่วยให้ประเทศมีความมั่นคงมากกว่า