กระทรวงอุตสาหกรรมโชว์ศักยภาพพื้นที่ระเบียงเขต ศก.ภาคตะวันออก หรือ EEC จะเป็นแรงดึงดูดการลงทุนครั้งใหญ่เข้าไทยในรอบ 30 ปีที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต เตียมจ่อชงนายกฯ วางโครงสร้างพื้นฐานรองรับนำร่อง 5 โครงการวันที่ 5 เม.ย.นี้ เผยวงเงิน 5 ปีไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านล้านบาท
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในการสัมมนา “อนาคตลงทุน เพิ่มขีดแข่งขันไทย” EEC STRATEGY THAILAND’S COMPETTIVE TRANSFORMATION ว่าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC บนพื้นที่ จังหวัดชะเชิงเทรา ชลบุรี และจังหวัดระยอง ที่เป็นกลไกส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0 จะทำให้เกิดคลื่นการลงทุนครั้งใหญ่เข้ามาในประเทศไทยโดยเฉพาะในระยะ 5 ปีที่จะเกิดการลงทุนไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะการลงทุนเริ่มต้นใน 5 โครงการหลัก
“EEC จะเป็นพื้นที่รองรับการลงทุนระลอกใหม่ของประเทศ เพราะ 30 ปีที่ผ่านมาเราทำมาแล้วและสร้างอุตสาหกรรมหลักทั้งรถยนต์ ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ ฯลฯ ก็พัฒนาไทยมาด้วยดี แต่ขณะนี้คงไม่พอเพราะเป็นสินค้าเดิมๆ ที่ส่งออกมูลค่าสูงไม่พอเราจึงกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะต้องพัฒนาให้ทันเทรนด์ของโลก”
สำหรับ 5 โครงการหลักที่จะเริ่มในปีนี้ ได้แก่
1. โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา วงเงิน 200,000 ล้านบาท ในระยะ 5 ปีแรกต้องเพิ่มอัตรารองรับผู้โดยสารจาก 3 ล้านคน เป็น 15 ล้านคน ก่อนจะพัฒนาให้สามารถรองรับ
2. โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง วงเงินลงทุน 158,000 ล้านบาท ที่จะต้องเชื่อมโยงสนามบินพาณิชย์ 3 แห่งให้สำเร็จ ได้แก่ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ
3. โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 วงเงิน 88,000 ล้านบาท
4. โครงการรถไฟทางคู่ เชื่อมโยงท่าเรือ 3 แห่ง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้าทางราง วงเงิน 64,300 ล้านบาท และ
5. โครงการพัฒนาเมืองใหม่ ในพื้นที่ 3 จังหวัด โดยเป็นการขับเคลื่อนตามแนวประชารัฐที่เป็นความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยการลงทุนหลัก 80% เป็นการลงทุนโดยภาคเอกชน
โดยในวันที่ 5 เมษายนนี้ คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานจะประชุนในพื้นที่ เพื่อพิจารณาภาพรวมโครงการ
ทั้งนี้ EEC จะเน้นการพัฒนาใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมเป้าหมาย การท่องเที่ยว และเมืองใหม่และชุมชน ผ่านโครงการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง โดยสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วมใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย สำหรับอุตสาหกรมที่จะเข้ามาลงทุนได้แก่ ยานยนต์แห่งอนาคตหรือ (EV/AV) อุตสาหกรรมการบิน หุ่นยนต์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ปิโตรเลียมและเคมีชีวภาพขั้นสูง การแพทย์ครบวงจร การท่องเที่ยว เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการตั้ง EECi เป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรม และ EECd โครงการ Digital Park Thailand ที่ศรีราชาที่เป็นการเชื่อมโยงด้านการสารสนเทศและการสื่อสาร โดยมีต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุน