ธปท.แย้มมีโอกาสปรับเพิ่มจีดีพีปีนี้โตเกิน 3.2% หลังพบสัญญาณชี้วัดปรับตัวดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทั้งส่งออก ท่องเที่ยว ลุ้น กนง.ประชุมเดือนนี้ ด้าน สรท.คาดส่งออกขยายตัวได้ 2-3% แนะรัฐเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าเชิงรุก หนุนเอกชนลุยลงทุนนอก เพื่อสร้างโอกาสให้สินค้าไทย
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2560 มีโอกาสจะขยายตัวได้มากกว่าที่ประมาณการไว้ที่ 3.2% ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการประชุมเพื่อปรับประมาณการในเดือน มี.ค.นี้
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา มีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง โดยได้รับแรงขับเคลื่อนมาจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวดี การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวชัดเจน รวมทั้งอานิสงส์จากเทศการตรุษจีน และการส่งออกที่ขยายตัวสูงถึง 8.5% ทำให้คาดว่าทิศทางการส่งออกจะขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาส 1 และ 2 ปีนี้ ได้รับแรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ดีขึ้น และความต้องการสินค้าต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังต้องติดตามความต่อเนื่องในไตรมาส 3 ว่าจะยังมีแรงส่งหรือไม่ รวมทั้งติดตามสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกด้วย
สำหรับการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชนยังคาดเดาได้ยาก แม้ว่าการลงทุนโครงการขนาดใหญ่จะเริ่มลงทุนแล้ว และการส่งออกฟื้นตัวก็ตาม ขณะเดียวกัน หากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของรัฐชะลอออกไป 1-2 ปี น่าจะมีผลต่อความเชื่อมั่นและทำให้การลงทุนภาคเอกชนชะลอออกไปอีก
ส่วนการบริโภคภาคเอกชนยังฟื้นตัวไม่มาก เนื่องจากหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงยังกดดัน แต่มีสัญญาณดีขึ้นหลังจากโครงการรถยนต์คันแรกที่สิ้นสุดระยะถือครอง 5 ปีในปีนี้ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีแนวโน้มดีขึ้น
ด้าน นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) หรือ สรท. กล่าวว่า จากการที่ภาครัฐได้ตั้งเป้าหมายการทำงาน โดยผลักดันการส่งออกให้เติบโต 5% ซึ่งเป็นเป้าที่สูงกว่าที่สภาผู้ส่งออกตั้งไว้ที่ 2%
"คาดว่าไตรมาสแรกการส่งออกจะขยายตัว 1-2% และคาดว่าทั้งปี 2560 จะขยายตัวได้ที่ 2-3%" นายสมพรกล่าว
ทั้งนี้ เห็นว่ารัฐควรเร่งรัดดำเนินยุทธศาสตร์เชิงรุก โดยเฉพาะในส่วนของการสร้างพันธมิตรทางการค้ากับประเทศคู่ค้าหลักที่สามารถดำเนินการได้รวดเร็วกว่าการเจรจาการค้าเสรี การตั้งผู้แทนการค้าในตลาดสำคัญ การยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศและตรายี่ห้อของสินค้าไทย และยังต้องมีการผลักดันช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านอี-คอมเมิร์ซ รวมไปถึงการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าในประเทศเป้าหมายแทนการส่งออกโดยตรงเพียงทางเดียว
โดยการส่งออกในเดือน ม.ค.2560 มีมูลค่า 17,099 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่มูลค่าการส่งออกในรูปแบบเงินบาท 609,543 ล้านบาท ขยายตัว 8.2% เป็นผลมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบ การปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาทองคำ และการเร่งส่งสินค้าก่อนช่วงหยุดตรุษจีนซึ่งเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือน ม.ค.ทำให้ผู้ซื้อสินค้าในหลายตลาดเร่งสั่งซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ มองว่าเป็นสัญญาณที่ดีแต่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด.