"อุตตม" คาดดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ม.ค.60 ขยายตัว 1.5% โตต่อเนื่องเดือนที่ 3 หลังสัญญาณเศรษฐกิจโลก - ไทยฟื้น
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) คาดการณ์ว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) เดือนม.ค.60 มีแนวโน้มจะขยายตัวระดับ 1.5% เมื่อเทียบกับ ม.ค.59 ซึ่งยังเป็นค่าดัชนีฯที่ขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 นับตั้งแต่เดือนพ.ย.59 นับเป็นเครื่องชี้วัดสัญญาณเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ต้นปีในทิศทางที่ดีขึ้น
"ดัชนีเดือนม.ค.60 คาดการณ์ว่า จะขยายตัว 1.5% หรือคิดเป็น 3 เท่าของเดือน ธ.ค.59 ที่ค่าดัชนีฯ ขยายตัว 0.5% จากช่วงเดียวกันของปี 58 ขณะที่อัตรากำลังการผลิตแต่ละอุตสาหกรรมก็เริ่มสูงขึ้น รวมทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือน มองว่า ยังอยู่ในระดับที่ดีขึ้น เนื่องจากสัญญาณเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนนับเป็นสัญญาณที่ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเติบโตในปี 2560" นายอุตตม กล่าว
สำหรับอุตสาหกรรมที่มีส่วนสำคัญต่อดัชนีฯ ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ อาหาร ที่คาดการณ์ว่า ดัชนีผลผลิตฯจะเพิ่มขึ้น 1% จาก ธ.ค.59 ที่หดตัว 17% อุตสาหกรรมสิ่งทอและเส้นใยสิ่งทอที่ใช้ในประเทศ พบว่า แนวโน้มดัชนีฯจะขยายตัว 4.85% นับว่า มีการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 สะท้อนกำลังซื้อในประเทศที่น่าจะดีขึ้น เช่นเดียวกับ อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า คาดการณ์ว่า ดัชนีฯ ม.ค.น่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 9.4% สะท้อนที่อุตสาหกรรมปูนซิเมนต์เองที่มียอดจำหน่ายเดือน ม.ค.ที่คาดว่า จะสูงถึง 60.8% นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์คาดการณ์เดือนม.ค.60 น่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับ ธ.ค.59 ที่ติดลบ 11% อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่จะโต 16% เป็นต้น
นายอุตตม กล่าวว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นสะท้อนจากภาวการณ์ส่งออกที่ปี 2560 ภาพรวมคาดว่าจะขยายตัว รวมถึงแรงซื้อในประเทศที่น่าจะปรับเพิ่มจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ อย่างไรก็ตามมีหลายคนแสดงความกังวลต่อภาวะหนี้ครัวเรือนของไทยที่เพิ่มขึ้นกว่า 80% ของจีดีพีจะส่งผลให้กำลังซื้อของคนไทยไม่สามารถเติบโตได้นั้นคิดว่าไม่น่าเป็นห่วงเพราะเชื่อว่าหากเศรษฐกิจเริ่มขยายตัวก็ชี้ให้เห็นว่าความเชื่อมั่นการจับจ่ายใช้สอยของคนไทยจะกลับมา
นอกจากนี้ในวันที่ 10 - 12 มีนาคมนี้ กระทรวงอุตฯเตรียมจัดงาน SMEs ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยจะประชาสัมพันธ์แนวทางยุทธศาสตร์และมาตรการในการขับเคลื่อนภาค SMEs ให้ภาค SMEs ได้รับทราบ อาทิ กองทุนส่งเสริม SMEs วงเงิน 20,000 ล้านบาท กองทุนฟื้นฟูกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วงเงิน 2,000 ล้านบาท พร้อมเปิดศูนย์รับคำปรึกษา ให้ความช่วยเหลือกับภาค SMEs