นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่ารัฐบาลไทยกำลังขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกในช่วง 5 ปีข้างหน้าทำให้ภาคเอกชนเยอรมนีแสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจึงเตรียมนัดหารือกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) สถาบันการเงินเพื่อร่วมขับเคลื่อนนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อปรับเปลี่ยนภาคอุตสาหกรรมและปรับรูปแบบการสอนนำนักเรียนอาชีวะมาช่วยพัฒนาเอกชนตามนโยบายของรัฐบาล
เนื่องจากเยอรมนีเป็นประเทศมีอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย เนื่องจากพัฒนาด้วยเทคโนโลยีสูงแทบทุกอุตสาหกรรมผ่านความร่วมมือระหว่างระหว่างผู้ผลิตมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย เพื่อยกระดับศักยภาพการผลิตให้มีมูลค่าสูงขึ้นมีประสิทธิภาพการผลิตมากขึ้น โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยเทคนิคดาร์มสตัดท์ได้มีสถาบันการเงินรัฐบาลและเอกชนร่วมกันสนับสนุนพื้นที่เป็นโรงผลิต เพื่อสอนนักศึกษาด้วยเครื่องมือครบวงจร
ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่างบีเอ็มดับบลิวอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายการลงทุนครั้งใหญ่ จึงสนใจขยายการลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกและยังสนใจเมื่อรัฐบาลเดินหน้าพัฒนาภาคอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก คาดว่าจะสรุปแผนลงทุนได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ เนื่องจากมองว่าในอนาคตไทยจะเป็นศูนย์กลางอาเซียน จากเดิมมุ่งลงทุนในจีน อินโดนีเซีย เวียดนาม และพร้อมยึดโมเดลแบบประชารัฐ ไม่ใช่การลงทุนผลิตรถยนต์เพียงอย่างเดียว
ดังนั้นจึงต้องร่วมกับสถาบันศึกษากระทรวงแรงงานสร้างบุคลาการด้านวิศวะ หรือช่างรถยนต์เตรียมรับอนาคตข้างหน้า รวมทั้งกลุ่มธุรกิจเป็นยักษ์ใหญ่ “เรนซิ่ง” มีความเข้มแข็งด้านสิ่งทอ เนื่องจากเดิมอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยเคยยิ่งใหญ่สร้างแรงงาน และรับจ้างการผลิต จึงต้องการพัฒนาอุตสหากรรมสิ่งทอในยุค 4.0 ฟื้นอุตสาหกรรมสร้างมูลค่าเพิ่ม เมื่อเดินทางมาโรดโชว์ที่ฝรั่งเศสและเยอรมนีแล้ว เตรียมเยือนอังกฤษ เนื่องจากยุโรปเป็นกลุ่มประเทศที่อุตสาหกรรมมีความเจริญสูงมาก