“สมคิด”รับหลักการปรับโครงสร้างกระทรวงอุตสาหกรรมใหม่ ชื่อกระทรวงอุตฯและผู้ประกอบการ มอบปลัด” สมชาย”หารือ กพร.เดินหน้าศึกษาภายใน 2 เดือน สั่งขยายการพัฒนาและส่งเสริมใน 5 กลุ่มคลัสเตอร์เพิ่ม จากเดิม 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายยังไม่ครอบคลุม ด้าน “อรรชกา” เผย สนง.คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ เป็นตัวขับเคลื่อน
จากที่ได้นำเสนอข่าวปรับโครงสร้างกระทรวงอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อรองรับการขับเคลื่อนประเทศไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาล โดยจะมีการตั้ง 2 กรมฯขึ้นมาใหม่และ 1 สำนักงานฯแห่งชาติขึ้นมารองรับ ฉบับที่ 3,195 วันที่ 25-28 กันยายน ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2559 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ได้ประชุมรวมกับผู้บริหารและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ถึงการการปรับโครงสร้างกระทรวงอุตสาหกรรมใหม่ว่า ได้รับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอโครงสร้างใหม่เสนอมาให้พิจารณาแล้ว ซึ่งจะสอดคล้องกับยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมใน 20 ปีข้างหน้า ที่ต้องการให้ประเทศก้าวพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วที่มีรายได้ระดับสูงขึ้น
โดยเห็นว่าโครงการสร้างใหม่ของกระทรวงอุตสาหกรรม แม้วันนี้จะยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด ซึ่งได้มอบหมายให้ผู้บริหารกระทรวงไปพิจารณาเพิ่มเติม และนายสมชาย หาญหิรัญ ให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) ถึงความเป็นไปได้ในโครงสร้างและสามารถดำเนินการในส่วนใดได้ก่อนบ้าง เพื่อให้ได้ข้อสรุปและนำกลับมาเสนออีกครั้ง
ทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม จะต้องมีการการปรับเปลี่ยนการทำงานให้เกิดการเชื่อมโยงกันมากขึ้น ซึ่งภาระกิจเดิมที่รองรับเพียง 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายหรือ S Curve ยังไม่ครอบคลุมอุตสาหกรรมทั้งหมด อย่างอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์และอุตสาหกรรมบริการ ต้องปรับไปสู่การสร้าง 5 คลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่ครอบคลุมไปภาคอุตสาหกรรมในทุกๆ ด้าน
ด้านดร.อรรชการ สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำหรับโครงสร้างกระทรวงอุตสาหกรรมใหม่ ที่เสนอไปแล้วนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้รับหลักการไปแล้ว และได้ให้ไปศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมการทำงานมากที่สุดภายในเวลา 2 เดือน โดยเฉพาะการเปลี่ยนกระทรวงฯเป็นกระทรวงอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ ที่จะสอดรับกับโครงสร้างหน่วยงานใหม่ รองนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้มีความเห็นขัดแย้งแต่อย่างใด แต่จะเน้นเนื้อในของโครงสร้างมากกว่า
สำหรับโครงสร้างใหม่ที่เสนอไปนั้น จะมีการเปลี่ยนบทบาทของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) มาเป็นจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายและ 5 คลัสเตอร์ต่างๆ การออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)พัฒนาอุตสาหกรรม ขึ้นมารองรับการจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา และการตั้งสำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรม รวมถึงการออกพ.ร.บ.พัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งชาติ เพื่อยกระดับสถาบันอาหาร เป็นสำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งชาติแทน
ขณะที่การทำงานเชิงส่งเสริม ซึ่งปัจจุบันมีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) รับผิดชอบการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี จะเปลี่ยนเป็นกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการขึ้นมาแทน และออกพ.ร.บ.ส่งเสริมผลิตภาพแห่งชาติ เพื่อรองรับการตั้งสำนักงานส่งเสริมผลิตภาพแห่งชาติ
ส่วนการส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบการเน้น ปัจจุบันมีกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่(กพร.) จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลและคอยอำนวยความสะดวกหรือสนับสนุนให้กับหน่วยงานต่างๆ ในการออกใบอนุญาตต่างๆ รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) ที่จะมีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นสำนักงานคณะกรรมการอุตสาหกรรมชีวภาพ ที่จะเพิ่มบทบาทในการเข้าไปดูแลกำกับพืชชนิดอื่นที่ไม่เฉพาะอ้อยอย่างเดียว เช่น มันสำปะหลังและปาล์มน้ำมัน เพื่อรองรับการกำดับดูแลอุตสาหกรรมชีวภาพหรือไบโอชีวภาพในอนาคต เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,197 วันที่ 2 – 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559