นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมทบทวนภารกิจและการปรับโครงสร้างกระทรวงอุตสาหกรรม ว่า เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อให้ประเทศไทยก้าวพ้นการติดกับดักประเทศรายได้ปานกลางไปสู่ ประเทศที่พัฒนาแล้วที่มีรายได้ ระดับสูง ได้มอบนโยบายให้กระทรวงอุตสาหกรรมปรับภารกิจจากเดิมที่รองรับเพียง 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล (เอสเคิร์ฟ) ซึ่งยังไม่ครอบคลุมอุตสาหกรรมทั้งหมด โดยจะเพิ่มอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์และอุตสาหกรรมบริการไปสู่การสร้าง 5 คลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่ครอบคลุมไปภาคอุตสาหกรรมในทุกๆ ด้าน ประกอบด้วย คลัสเตอร์เกษตร คลัสเตอร์สุขภาพ คลัสเตอร์ไฮเทค คลัสเตอร์ดิจิทัล และคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์
ขณะเดียวกันได้สั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งเน้นงานสร้างกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ (สตาร์ทอัพ) โดยเฉพาะเอสเอ็มอี และผลักดันไปสู่การเป็นระดับกลางและขยายตัวได้ (สเกลลิ่ง อัพ) และพัฒนาไปสู่การเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ พร้อมเชื่อมโยงการทำงานกับทุกภาคส่วน เช่น สถาบันการศึกษา สถาบันการเงิน สถาบันเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่จะทำหน้าที่ส่งเสริมการลงทุน เป็นต้น
นอกจากนี้ กระทรวงควรสนับสนุนภาคเอกชนดำเนินโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมร่วมกับภาครัฐ เช่น นิคมอุตสาหกรรมเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร สอดคล้องกับโครงการโครงการไทยแลนด์ ฟู้ด วัลเลย์ ที่บริษัทเอกชนร่วมพัฒนา มีสถาบันอาหารดูแลงานด้านอุตสาหกรรมอาการ และมีการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ควรเข้ามาช่วยสนับสนุนในการหาพื้นที่
นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุ ตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจะปรับเรื่อง การปรับโครงสร้างกระทรวงอุ ตสาหกรรมและสถาบันเครือข่ายเพิ่ มเติมตามนโยบายที่นายสมคิดสั่ งให้สร้าง 5 คสัสเตอร์อุตสาหกรรมเพื่อปู ทางไปสู่ อินดัสตรี 4.0 คาดว่า จะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือนนับจากนี้ไป ซึ่งทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะจั ดทำให้เสร็จภายใน 2 เดือน และนำไปหารือกับสำนั กงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรื อน(ก.พ.ร.) เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ ภายใต้โครงสร้างกระทรวงอุตสาหกรรมใหม่ ยังมีการสร้างหน่วยงานที่ชื่อว่า ศูนย์ส่งเสริมงานวิจัยสู่การผลิตเชิงพานิชย์ (Industrial Tranfromation Center) ที่จะคอยช่วยเหลือผู้ประกอบการ ตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจไปจนสู่ การผลิตเชิงพาณิชย์ โดยจะส่งต่อความช่วยเหลือไปตามภารกิจของสถาบันเครือข่ายทั้งหมดของกระทรวงอุตสาหกรรม ในเบื้องต้น มอบหมายให้ นายเกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันพลาสติกดูแลไปก่อน
นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การปรับโครงสร้างกระทรวงอุตสาหกรรมใหม่ นอกจากปรับเปลี่ยนภาระหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ และสถาบันเครือข่ายให้สอดรับกับนโยบายสร้าง 5 คลัสเตอร์ของรองนายกรัฐมนตรี อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงชื่อเพื่อความเหมาะสม เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม อาจเปลี่ยนชื่อเป็น "กระทรวงอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.) อาจเปลี่ยนเป็น สำนักงานคณะกรรมการอุตสาหกรรมชีวภาพ โดยดูแลอุตสาหกรรมปลายน้ำด้วย เช่น ไอโอพลาสติก มีการตั้งสำนักงานคณะกรรมการพั ฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ ดูแลการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมเพื่อให้การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น