นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า การสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย ประจำเดือนสิงหาคม 2559 ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของสอท.พบว่าอยู่ที่ระดับ 83.3 ลดลงจากระดับ 84.7 ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ปัจจัยที่ส่งผลลบต่อค่าดัชนีฯส่วนใหญ่เกิดจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ปัญหาการเตรียมปรับค่าจ้างแรงงาน และผู้ประกอบการยังได้รับผลกระทบจากการที่ประเทศจีนออกมาตรการให้สินค้านำเข้าจากประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยต้องดำเนินการพ่นสารเคมีกำจัดยุงในตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร
ส่วนคาดการณ์ดัชนีความเชื่อมั่น 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 101.6 เพิ่มขึ้นจากระดับ 100.7 ในเดือนกรกฎาคมเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐยังเป็นเครื่องมือสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวด้วยการผลิตที่เพิ่มมูลค่าและนวัตกรรมเพื่อยกระดับในการแข่งขัน
นอกจากนี้ต้องจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ซึ่งมีโอกาสที่จะคงดอกเบี้ยหรือปรับขึ้นดอกเบี้ยและหากปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจจะส่งผลดีต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะมีผลให้ค่าเงินบาทอ่อนลงเล็กน้อยและส่งผลดีต่อการแข่งขันและการส่งออกกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค
ผู้ประกอบการมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐคือต้องการให้ภาครัฐกำหนดแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและแผนป้องกันอุทกภัยในระยะยาว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในประเทศเพื่อนบ้าน และอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนด้านการขนส่งสินค้าให้มีความคล่องตัวมากขึ้น พร้อมเสนอให้ภาครัฐมีการส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในการใช้นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาและเพิ่มมูลค่าสินค้า
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานสอท.กล่าวว่าภาคเอกชนมีความกังวลปัญหาน้ำท่วมจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน กระทบพืชไร่เกษตรกร ส่งผลต่อเนื่องถึงรายได้ของเกษตรกร ซึ่งเป็นฐานใหญ่ของประเทศ จึงต้องการให้ภาครัฐ เร่งดำเนินการแผนบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากยังไม่เป็นรูปธรรมมีความชัดเจนมากนัก และยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติไม่มีความเชื่อมั่นเข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย
“ตอนนี้ภาคเอกชนเริ่มกังวลปัญหาน้ำท่วมจะกระทบต่อกำลังซื้อไม่เพียงแต่กระทบยอดขายรถยนต์ แต่จะกระทบไปถึงเศรษฐกิจภาพใหญ่ของประเทศ ทั้งที่ตอนนี้เศรษฐกิจในประเทศเริ่มค่อยๆ ฟื้นแล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่อยากให้ผลกระทบจากน้ำท่วมมากระทบ จากปลายปีที่แล้วก็ปัญหาภัยแล้งเป็นปัญหาสลับไปสลับมา ถ้ามีแผนบริหารจัดการน้ำที่ดี เชื่อว่าจะลดผลกระทบเรื่องนี้ไปได้มาก” นายสุรพงษ์กล่าว