"ธนาคารกสิกรไทย" ปรับลดเป้าส่งออกปีนี้เป็นหดตัว 2% หลังเจอผลกระทบ Brexit คาดหากประชามติร่างรธน. ไม่ผ่านฉุดบาทอ่อนค่า 37 บาท/ดอลลาร์
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3 โดยมีปัจจัยบวกมาจากสถานการณ์ภัยแล้งที่เริ่มคลี่คลาย รายได้เกษตรกรเริ่มขยับขึ้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวและการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลยังเป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญ ส่งผลให้เศรษฐกิจปีนี้มีโอกาสโตประมาณร้อยละ 3 แต่ยังกังวลเรื่องของการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและผลกระทบจากกรณีที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ทำให้ปรับเป้าการส่งออกเป็นหดตัวร้อยละ 2 จากเดิมคาดว่าไม่ขยายตัวเลยและต้องติดตามว่าการเจรจาระหว่างอังกฤษจะออกจากอียูนั้น จะมีผลชัดเจนอย่างไร จะป็นปัจจัยเสี่ยงซ้ำเติมให้การค้าชะลอลงอีกหรือไม่ ซึ่งหากการเจรจายืดเยื้ออาจจะส่งผลกระทบให้การส่งออกของไทยชะลอตัวลงได้อีก
สำหรับปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศ สถานการณ์การเมืองจะกลับมามีความสำคัญอีกครั้งในเดือนสิงหาคมนี้ เนื่องจากวันที่ 7 สิงหาคม จะมีการลงประชามติรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากการลงมติผ่านพ้นไปด้วยดีก็จะเป็นปัจจัยบวกที่เรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติได้ โดยเงินบาทจะอยู่ที่ระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่หากไม่เป็นไปตามคาดหมายการกลับสู่การเป็นประชาธิปไตยของไทยล่าช้าออกไป ก็จะส่งผลให้ความเชื่อมั่นลดลง การบริโภคในประเทศจะยิ่งต่ำลง ทำให้ประเทศไทยต้องพึ่งพิงค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามาเป็นตัวกระตุ้นการส่งออก โดยประเมินว่าค่าเงินบาทมีโอกาสอยู่ที่ระดับ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และในช่วงสิ้นปีนี้เงินบาทมีโอกาสจะเคลื่อนไหวระดับ 36.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่าจะมีกระแสไหลเข้าจากเงินทุนต่างชาติระยะสั้น เพื่อเข้ามาเก็งกำไรในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นไทย เป็นผลจากการที่ธนาคารกลางหลายประเทศใช้นโยบายอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีนี้ แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะส่งสัญญาณบวกก็ตาม
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยที่ร้อยละ 1.5 จนถึงสิ้นปี 2560 เนื่องจากรัฐบาลยังต้องใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ