กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือเอสเอ็มอี (เอสเอ็มอี เรสคิวเซ็นเตอร์) ขณะที่ นางอรรชกา สีบุญเรืองรมว.อุตสาหกรรม พิจารณาเห็นชอบแต่งตั้ง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานคณะทำงาน
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เอสเอ็มอีเรสคิว เซ็นเตอร์ จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ก.ค. 2559 นี้ โดยรูปแบบของศูนย์จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนให้ความช่วยเหลือจากผู้ประกอบการและประสานระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและหน่วยงานต่างๆ ภายนอกกระทรวงประมาณ 20 หน่วยงาน เช่น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กรมบังคับคดี ธนาคารพาณิชย์ ประสานงานกับอุตสาหกรรมจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์ภาค ศูนย์ให้บริการเอสเอ็มอีครบวงจร (เอสโอเอสเอส)เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาเอสเอ็มอีครบวงจร
ทั้งนี้การทำงานของ ศูนย์จะสอดคล้องกับกองทุนพลิกฟื้นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่อยู่ภายใต้การดูแลของ สสว. โดยคาดว่ากองทุนฯ น่าจะมีเงินไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท ปล่อยกู้ไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท ไม่คิดดอกเบี้ย ระยะเวลา 5-7 ปี โดยศูนย์ฯ จะช่วยเหลือและประสานให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่อยู่ระหว่างการฟ้องร้องที่หาทางเติมทุนหมุนเวียน เพราะผู้ประกอบการหลายรายมีปัญหาและไม่มีผู้ให้คำแนะนำเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุน และสอดรับกับ พ.ร.บ.ล้มละลาย (ฉ.9) พ.ศ.2559 เรื่องการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้มีการช่วยเหลือเอสเอ็มอีและบุคคลธรรมดา ซึ่งแตกต่างจากอดีตที่ดูแลรายใหญ่เป็นหลัก
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ศูนย์ที่จะจัดตั้งขึ้นนี้จะเน้นการทำงานให้เหมือนเอกชนเน้นความรวดเร็ว คล่องตัว และกำหนดกรอบการทำงานให้ชัดเจนว่าจะแก้ไขภายในกี่วัน ถ้าช่วยเหลือโดยตรงไม่ได้ก็จะประสานหน่วยที่ช่วยได้ โดยจะมีสำนักงานอยู่ที่สำนักปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม สอดคล้องกับความต้องการของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับเอสเอ็มอี ซึ่งเอสเอ็มอีที่จะเข้ามาส่วนใหญ่ก็ยังคงอยู่ในระดับอินดัสตรี 1.0 ระดับ 2.0 และ 3.0 เพื่อช่วยให้ไปถึงระดับ 4.0 ในที่สุด