พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการหารือและมอบนโยบายกับทีมประเทศไทยในอินเดียของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทีมประเทศไทยในอินเดีย ที่มีส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างไทย-อินเดีย ให้มีความก้าวหน้า และสานประโยชน์ของ 2 ประเทศ ปัจจุบันอินเดียเป็นประเทศมหาอำนาจในภูมิภาค มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก จึงเป็นโอกาสของไทยในการขยายตลาด และความร่วมมือในด้านต่างๆ ให้มากขึ้น
พล.ต.วีรชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องการให้หน่วยงานของไทยช่วยกันเชิญชวน และส่งเสริมให้อินเดียไปลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมทวาย และเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในสาขาที่อินเดียมีความเชี่ยวชาญ คือ New S-Curve อาทิ อุตสาหกรรม IT ซอฟแวร์ ยา เครื่องจักรและชิ้นส่วน ไบโอเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา (R&D) ซึ่งรัฐบาลพร้อมพิจารณามาตรการลดหย่อนภาษี และส่งเสริมการลงทุนต่างๆ เพื่อดึงดูดการลงทุนเหล่านี้ให้เข้ามาในประเทศไทยในช่วงนี้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้หน่วยงานต่างๆ ช่วยกันประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ด้านการลงทุน การค้า การท่องเที่ยว อย่างต่อเนื่อง รวมถึง เชิญชวนให้มาร่วมพัฒนาพร้อมกับไทยในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ขณะเดียวกัน ไทยต้องส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยเข้ามาลงทุนในอินเดียมากขึ้น เพื่อแสวงหาโอกาสจากนโยบายของนายกรัฐมนตรีอินเดีย ไม่ว่าจะเป็น make in India , smart cities หรือ digital India
พล.ต.วีรชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังขอให้ข้าราชการแต่ละกระทรวงทำงานแบบบูรณาการ คิดแบบผู้ประกอบการ ภายใต้ผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ต้องแสวงหาจุดเชื่อมระหว่างไทย-อินเดีย สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ สร้างความเชื่อมั่นต่างตอบแทน เพื่อดึงดูดนักธุรกิจอินเดียเข้ามาค้าขายลงทุนกับไทยให้มากขึ้น รวมถึง ต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับภาคเอกชน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ
พล.ต.วีรชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอให้หน่วยงานต่างๆ ส่งเสริมให้อินเดียสามารถใช้ไทยเป็นประตูไปสู่อาเซียนและกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของอินเดีย ที่จะใช้ไทยเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างอินเดียกับอาเซียน ผ่านโครงการท่าเรือ เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย เพื่อเชื่อมโยงกับชายฝั่งด้านตะวันออกของอินเดีย และเส้นทางถนนสามฝ่ายไทย-เมียนมา-อินเดีย เพื่อเชื่อมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย
“นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ไปศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างท่าเรือ ที่ระนอง เพื่อเชื่อมกับอินเดียทางทะเล” พล.ต.วีรชน กล่าว
พล.ต.วีรชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้ความมั่นใจกับทีมประเทศไทยว่า การทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ไม่ต้องการคะแนนนิยม และไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ขอให้ข้าราชการมุ่งมั่นทำงาน เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติที่แท้จริง