นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน เม.ย.59 ว่า สัญญาณเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะการลงทุนในหมวดก่อสร้าง ขณะที่การใช้จ่ายรัฐบาล ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยโดยขยายตัวสูงที่ 16.8% สำหรับการส่งออกกลับมาหดตัวอีกครั้งในกลุ่มตลาดและสินค้าส่งออกหลัก ด้านอุปทานพบว่า ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้นทำให้รายได้เกษตรกรที่แท้จริงกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้
ทั้งนี้ การบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) กลับมาขยายตัวเป็นบวกที่ 2.5% โดยเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่เป็นการใช้จ่ายภายในประเทศขยายตัว 6.2% ขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าหดตัว -3.6% สำหรับปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ขยายตัว 2.9% เนื่องจากมีโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายในเดือน เม.ย.59 ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะราคายางพาราที่มีทิศทางปรับตัวดีขึ้น ส่งผลต่อรายได้เกษตรกรที่แท้จริงให้กลับมาขยายตัวได้ในรอบ 4 เดือน มาอยู่ที่ 2.7%
ส่วนการลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณดีขึ้นจากการลงทุนในหมวดก่อสร้าง สะท้อนจากภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ขยายขึ้นที่ 58.8% ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของรัฐบาล ขณะที่สถานการณ์การคลังสะท้อนบทบาทการสนับสนุนเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้จ่ายของรัฐบาลจากการเร่งรัดการลงทุนของรัฐบาลที่ขยายตัวในระดับสูง มีการเบิกจ่ายรวม 223,600 ล้านบาท ขยายตัว 16.8% ส่วนภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยขยายตัวต่อเนื่องที่ 9.8%.