ลดวงเงินคุ้มครองลง ไม่เกี่ยวกับความมั่นคง เป็นผลดีต่อภาคประชาชนมากกว่า เผยแบงก์พาณิชย์พร้อมลดวงเงินเหลือ 1 ล้านบาทตามกำหนดเดิมอยู่แล้ว
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การขยายเวลาการคุ้มครองเงินฝากออกไป และจะทยอยลดวงเงินคุ้มครองแบบค่อยเป็นค่อยไปนั้น ไม่ได้มีเหตุผลเกี่ยวกับความมั่นคงของสถาบันการเงินแต่อย่างใด โดย ณ วันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ไทยทุกแห่ง มีฐานะเงินกองทุนฯ ที่เข้มแข็ง มีสภาพคล่องส่วนเกินอยู่ระดับสูง นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งได้เตรียมตัวพร้อมรับการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาทต่อบัญชี ตามกำหนดการเดิมไว้แล้ว และ ธปท.ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของเงินฝากในระบบสถาบันการเงินไทยอย่างใกล้ชิด ไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี มติครม.ดังกล่าวนั้น มีข้อดีสำหรับประชาชนผู้ฝากเงิน ที่จะได้มีเวลาปรับตัว วางแผนทางการเงินเพิ่มขึ้น มีเวลามากขึ้นที่จะพิจารณาผลิตภัณฑ์การเงินที่จะมาทดแทนเงินฝากที่เหมาะสมกับตนเอง นอกจากนี้ ยังอาจส่งผลดีต่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในระบบ เพราะสถาบันการเงินไม่ต้องกังวลที่จะแข่งขันกันนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อจูงใจผู้ฝากเงินรายใหญ่ ส่งผลให้สถาบันการเงินบริหารต้นทุนดอกเบี้ยเงินฝากได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงอยู่ในระดับต่ำได้ต่อเนื่อง สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในสถานการณ์ปัจจุบัน