โตต่อเนื่อง 2 เดือนติด-นำเข้าสินค้าทุนฟื้น
“พาณิชย์” ประกาศตัวเลขส่งออกเดือน มี.ค.2559 วันนี้ (25 เม.ย.) ขยายตัว 1.3% ขณะที่รวม 3 เดือนแรกของปีนี้ส่งออกอยู่ในแดนบวกแล้ว 0.9% สินค้าเกษตรหดตัวจากราคาสินค้าที่ลดลง ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง ด้านการนำเข้าสินค้าทุน และวัตถุดิบมีแนวโน้มดีขึ้น สะท้อนการลงทุนในประเทศเริ่มกลับมาฟื้นตัว เทียบกับประเทศอื่นทั่วโลกที่ยังติดลบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 25 เม.ย.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะแถลงตัวเลขการส่งออกของไทยประจำเดือน มี.ค.59 อย่างเป็นทางการ โดยพบว่ามูลค่าการส่งออก ในรูปสกุลดอลลาร์ 19,125 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 1.3% จากเดือน มี.ค.ปีก่อน และเป็นการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ทั้งนี้ เมื่อรวมการส่งออก 3 เดือนแรกของปีนี้ คือ ม.ค.-มี.ค.59 มีมูลค่ารวม 53,829 ล้านเหรียญ ยังขยายตัวที่ 0.9% จากช่วงปีก่อน สะท้อนให้เห็นว่าขณะที่การส่งออกของประเทศอื่นยังติดลบ แต่การส่งออกไทยขยับ มาอยู่ในแดนบวกแล้ว อีกทั้งเมื่อนำมูลค่าการส่งออก รวมในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและทองคำ พบว่าการส่งออกเดือน มี.ค.ขยายตัว 1.4% เทียบกับปีก่อน ส่วนมูลค่าส่งออกรวม ม.ค.-มี.ค.59 หักสินค้าเกี่ยวเนื่องน้ำมันและทองคำ ติดลบ 0.4%
ด้านการนำเข้าเดือน มี.ค.59 มีมูลค่า 16,159 ล้านเหรียญ ขยายตัวติดลบ 6.94% ทำให้เดือนนี้มีดุลการค้า 2,966 ล้านเหรียญ และเมื่อคิดรวมการนำเข้า ม.ค.-มี.ค.59 มีมูลค่า 46,640 ล้านเหรียญ ขยายตัวติดลบ 11.99% จึงมีดุลการค้า 8,189 ล้านเหรียญ ทั้งหมดนี้ ทำให้ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน มี.ค.นี้ มีมูลค่าการค้า 35,283 ล้านเหรียญ ติดลบ 2.64% และมูลค่าการค้าเดือน ม.ค.-มี.ค.59 ที่ 99,470 ล้านเหรียญ ติดลบ 5.46%
ส่วนการส่งออกในรูปสกุลเงินบาทเดือน มี.ค. มีมูลค่า 676,529 ล้านบาท ขยายตัว 10.77% และการส่งออกรวมเดือน ม.ค.-มี.ค.59 มีมูลค่า 1,923,794 ล้านบาท ขยายตัว 11.07%
สำหรับสินค้าส่งออก 10 อันดับแรก พบว่ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบขยายตัวเป็นอันดับ 1 โดย มี.ค. ขยายตัว 2.9% และ ม.ค.-มี.ค.ขยายตัว 1.5% ที่น่าสนใจคือ การส่งออกรถยนต์กำลังค่อยๆฟื้น โดยการส่งออกรถกระบะขนาด 1 ตัน ซึ่งเดิมไทยส่งออกมากที่สุดในโลกเริ่มลดลง แต่การส่งออกรถเก๋ง มีมากขึ้น ซึ่งเป็นทิศทางที่ดีเพราะทำราคาได้สูงกว่า ด้านสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรเดือน มี.ค.59 กลับมาหดตัวที่ 1.5% จากปัจจัยราคาสินค้าลดลง ได้แก่ ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ทูน่ากระป๋องและเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตาม มีสินค้าเกษตรที่ขยายตัว ได้แก่ ข้าว ผลไม้กระป๋องแปรรูป น้ำตาลทราย และไก่แปรรูป และเป็นที่น่าสังเกตว่ามูลค่าส่งออกหดตัวสวนทางกับปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนว่าเป็นการหดตัวจากปัจจัยด้านราคาเป็นสำคัญ ส่วนสินค้าอุตสาหกรรม มี.ค.59 ขยายตัวต่อเนื่องที่ 3.4% ตามการส่งออกทองคำ รถยนต์และส่วนประกอบและเครื่องจักรกลที่ขยายตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาการส่งออกเป็นรายกลุ่มตลาด พบว่าตลาดหลัก 3 ประเทศ ยังคงติดลบ 3.4% โดยญี่ปุ่นติดลบ 6.1% สหรัฐอเมริกาติดลบ 1.4% สหภาพยุโรปติดลบ 2.9% อย่างไรก็ตาม ในตลาดศักยภาพสูงขยายตัว 0.6% โดยตลาดอาเซียนเดิม ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไนและสิงคโปร์ ขยายตัว 12.4% แต่ตลาด CLMV ติดลบ 6.9% ทำให้ภาพรวมตลาดอาเซียนขยายตัว 4.5% สำหรับตลาดจีนติดลบ 5.4% และเอเชียใต้บวก 0.5% ด้านตลาดศักยภาพระดับรอง ขยายตัว 0.4% มาจากการขยายตัวของตลาดออสเตรเลีย 3.5% ที่มีการนำเข้ารถยนต์จากไทยเป็นส่วนใหญ่และตลาดตะวันออกกลาง ติดลบ 5.9%
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวิเคราะห์โครงสร้างการนำเข้าเดือน มี.ค.59 พบว่า การนำเข้าสินค้าทุน เริ่มเป็นบวก 5.9% ส่วนการนำเข้าวัตถุดิบแม้ยังติดลบ 11.51% แต่เป็นการติดลบที่ลดลง เมื่อพิจารณาการนำเข้าวัตถุดิบทั้ง 3 เดือนคือ ม.ค.-มี.ค. ติดลบ 15.7% สะท้อนให้เห็นว่าอนาคตจะมีการลงทุนและผลิตสินค้าในไทยมากขึ้น โดยการนำเข้าส่วนประกอบยานยนต์ยังคงขยายตัวได้ดีสะท้อนการลงทุนในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวและมีการขยายการผลิตรถยนต์
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาสถานะการส่งออกของประเทศต่างๆ เดือน ม.ค.-ก.พ.59 พบว่า ประเทศคู่แข่งมีทิศทางหดตัว มีเพียงไทยประเทศเดียวที่เป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับที่ 23 ของโลก ขยายตัว 0.7% ส่วนประเทศอื่นติดลบทั้งหมด โดยรัสเซียติดลบมากสุด 34.5% รองลงมาสิงคโปร์ติดลบ 20.7% ออสเตรเลียติดลบ 20.4% จีนติดลบ 17.9% เป็นต้น.