สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

สศอ.เผยเอ็มพีไอมค.หดตัว3.3% ต่ำสุดรอบ14เดือนหลังส่งออกดิ่ง
01/03/2016
ข่าวเศรษฐกิจ

นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือนม.ค.2559 กลับมาหดตัว 3.3% อยู่ที่ระดับ 107.51 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ระดับ 111.18 แต่ถือว่าเพิ่มขึ้น 2.25% เทียบกับ 2 เดือนที่ผ่านมามีค่าเป็นบวกติดต่อกัน ซึ่งเป็นการหดตัวต่ำสุดในรอบ 14 เดือน เทียบกับเดือนพ.ย.2557 ที่หดตัวต่ำสุด 5.58% ส่วนกำลังการผลิตอยู่ที่ 63.93%

ทั้งนี้ เป็นผลจากภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์มีการผลิต 147,651 คัน ลดลง 11.69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้การส่งออกมี 93,714 คัน เติบโต 1.38% แต่ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา มี 51,821 คัน ลดลง 13.23% คาดไตรมาส 1/2559 กำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 967,500 คัน เติบโต 3.53% ซึ่งเป็นการขยายตัวจากยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศที่น่าจะกลับมาเติบโต 9.72% อยู่ที่ 405,000 คัน ขณะที่ตลาดส่งออกคาดลดลง 2.36% อยู่ที่ 562,500 คัน

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า ยังได้รับผลกระทบจากเหล็กสำเร็จรูปราคาถูกที่นำเข้าจากจีน และความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมที่ชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจ โดยการบริโภคเหล็กของไทยในเดือนม.ค.มี 1.39 ล้านตัน ลดลง 10.05% ประกอบกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลง 13.55% ตามความต้องการคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คในตลาดโลกลดลง อีกทั้งอุตสาหกรรมอาหารยังลดลง 8.2% จาการผลิตสินค้าประมงที่คาดไตรมาส 1/2559 จะหดตัว 10-15% และการผลิตน้ำตาลที่คาดขยายตัวเพียง 0-3%

นายศิริรุจ กล่าวว่า สศอ.มองว่าเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เอ็มพีไอหดตัว เพราะไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเป็นรายได้หลัก เมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ความต้องการสินค้าจากต่างประเทศลดลงทั้งเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป จีน และญี่ปุ่นก็ติดลบ ราคาน้ำมันและราคาผลผลิตสินค้าเกษตรตกต่ำ การส่งออกของไทยก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย โดยเฉพาะในระยะยาวอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมของคนที่หันไปใช้สมาร์ทโฟนมากกว่าคอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้ประกอบการต้องปรับเปลี่ยนและพัฒนาการผลิตให้ทันสมัยตรงความต้องการตลาดมากขึ้น

ทั้งนี้ สศอ.จะมีการติดตามความคืบหน้าเรื่องการเบิกจ่ายตามมาตรการและการลงทุนโครงการต่างๆ ของภาครัฐในช่วง 2-3 เดือนนับจากนี้อย่างใกล้ชิด หากมีการเบิกจ่ายและการลงทุนจริงทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากได้ชัดเจนภายในไตรมาส 1/2559 ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ตั้งเป้าหมายไว้ เชื่อว่าจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการบริโภคและจับจ่ายใช้สอยในประเทศตามมา การผลิตก็ปรับตัวดีขึ้น ก็มีโอกาสที่เอ็มพีไอจะกลับมาเป็นบวกได้ในระยะต่อไป

"ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่ สศอ. จะปรับตัวเลขคาดการณ์เอ็มพีไอที่ปัจจุบันคาดไอปี 2559 อยู่ที่ 2% และผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ภาคอุตสาหกรรมปีนี้คาดอยู่ที่ 3-4% เพราะต้องติดตามผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนภาครัฐ รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนที่จะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ตามเป้าหมายชัดเจน สศอ.จึงจะทบทวนปรับประมาณการในช่วงกลางปีนี้อีกครั้ง" นายศิริรุจ กล่าว
ที่มาของข่าว: แนวหน้า

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.