สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

“สมคิด”จีบรัสเซีย ขอเพิ่มสัมพันธ์ด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว
25/02/2016
ข่าวเศรษฐกิจ
สมคิด

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเดินทางไปปฏิบัติราชการ ณ สหพันธรัฐรัสเซีย ระหว่างวันที่ 22-27 กุมภาพันธ์ 2559 ว่า ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและรัสเซีย ต่างมีความต้องการที่จะ ร่วมมือกันมาโดยตลอด แต่ความพยายามไม่ค่อยคืบหน้าเท่าที่ควรเพราะมีปัญหาสำคัญ ได้แก่การขาดข้อมูลความเข้าใจระหว่างกัน โดยทั้งสองฝ่าย ไม่เข้าใจรูปแบบและการทำธุรกิจระหว่างกันของแต่ละฝ่าย

ขณะเดียวกันมีการขาดแคลนบุคลากรที่เข้าใจวัฒนธรรมระหว่างกันและขาดแคลนพันธมิตรทางธุรกิจที่เชื่อใจได้ อีกทั้งมีปัญหาระบบกฎหมายและข้อบังคับที่ต่างกันจึงเป็นอุปสรรคอย่างมากในการค้าการลงทุนและมีปัญหาทางด้านโลจิสติกส์ที่เป็นอุปสรรคสำคัญในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจของ 2 ประเทศตลอดจนไม่มีแหล่งทุนร่วมกันในการสนับสนุนการค้าและการลงทุนต่างประเทศ

ทั้งนี้หากทั้ง 2 ประเทศสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งไทยและรัสเซียก็มีโอกาสที่จะพัฒนาความร่วมมือเศรษฐกิจด้วยกัน โดยเฉพาะ ในศตวรรษที่ 21 เอเชียแปซิฟิกได้กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกโดยมีอาเซียนเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริม ความมั่นคง และไทยก็เป็นประเทศที่อยู่ตรงกลางของประชาคมอาเซียน ดังนั้นเศรษฐกิจของไทยจึงเป็นที่สนใจเลยดึงดูดประเทศต่างๆมากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงรัสเซียด้วย

“ การเดินทางเยือนรัสเซียในครั้งนี้ เพื่อจะกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศทั้งด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจ และเพื่อเตรียมการนำไปสู่การมาเยือนของนายกรัฐมนตรีไทยในเดือนพฤษภาคม โดยฝ่ายไทยให้ความสำคัญกับการเยือนรัสเซียครั้งนี้มาก ทางด้านเศรษฐกิจรัฐมนตรีมาหลายท่านเพื่อจะได้หารือร่วมกันในทุกมิติ โดยด้านการค้านั้นทั้ง 2 ประเทศมีศักยภาพทำการค้าระหว่างกันสูงมากเพราะต่างมีสิ่งที่จะเสริมซึ่งกันและกันอยู่หลายปีมานี้การค้าของประเทศมีมูลค่าไม่สูงเท่าที่ควร สาเหตุหนึ่ง มาจากเศรษฐกิจโลกถดถอย ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงควรแสวงหาแนวทางในการเพิ่มมูลค่า การค้าในระยะยาวโดยเฉพาะโครงสร้างการค้าขายควรกระจายในหลายมิติ”นายสมคิดกล่าว

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมมีผลผลิตด้านอาหารและผลิตภัณฑ์เกษตรคุณภาพสูงในการเสริมสร้าง ความมั่นคงทางด้านอาหารแก่รัสเซีย โดยไทยสามารถส่งออกอาหารโดยเฉพาะข้าว เนื้อสุกร สัตว์ปีก สินค้าประมง ซึ่งจะต้องขอให้รัสเซียช่วยผ่อนปรนมาตรการทางด้านสุขอนามัยและอำนวยความสะดวกรับรองมาตรฐานและการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตเนื้อสัตว์และประมงได้ อีกทั้ง เพื่อสนับสนุนการค้าระหว่างกันจึงจะเร่งรัดให้มีการพิจารณาทำ บันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือด้านนำเข้าและส่งออกสินค้าประมงและธัญพืชระหว่างกันที่ยังค้างอยู่ ซึ่งหากสามารถ สรุปผลได้ก็จะสามารถลงนามในช่วงที่นายกรัฐมนตรีได้มาเยือนรัสเซีย และจะต้องเร่งรัดการจัดทำเอกสารความร่วมมือระหว่างศุลกากรสองประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าด้วย

ส่วนด้านการลงทุนขณะนี้ไทยกำลังเร่งการปฏิรูปประเทศจะมีโครงการลงทุนมากและเชื่อมการสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศจึงอยากเชิญชวนให้รัสเซียเข้ามาเพราะนอกจากจะมีโครงการหลายประเภทที่รัสเซียมีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับสูง การลงทุนสร้างฐานผลิตในไทยยังเป็นกุญแจไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ซึ่งมีศักยภาพสูง ส่วนไทยมีความเข้มแข็งในอุตสาหกรรมอาหาร อิเลคทรอนิคส์ ก็ล้วนแต่มีศักยภาพสามารถไปลงทุนในรัสเซียได้ ซึ่งแนวทางหนึ่งจะช่วยส่งเสริมได้คงต้องขอความสนับสนุนความร่วมมือของธนาคารกลางทั้งสองประเทศและสนับสนุนความร่วมมือระหว่างธนาคารพาณิชย์ ทางการแลกเปลี่ยนข้อมูลและกฎระเบียบระหว่างกัน

นอกจากนี้ รัสเซียได้จัดตั้งกลุ่ม Eurasian economic community (EAU) ซึ่งประเทศไทยประสงค์จะทำเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ)กับกลุ่มนี้ จึงต้องขอการสนับสนุนจากรัสเซีย ขณะเดียวกันรัสเซียมีศักยภาพด้านพลังงาน ไทยจึงต้องการกระชับความสัมพันธ์เพื่อให้สนับสนุนความมั่นคงพลังงาน และ ในระหว่างการเยือน ของนายกรัฐมนตรีของรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว กระทรวงพลังงานของทั้งสองประเทศได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมและให้มีการตั้งคณะทำงานร่วม โดยประเทศไทยยินดีเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะทำงานร่วม ด้านพลังงานก่อนการเยือนของนายกรัฐมนตรีไทย ส่วนด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันจะเป็นอีกด้านหนึ่งที่อยากให้ส่งเสริมเพราะมีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนสองประเทศไทยอยากให้รัสเซียมั่นใจว่าจะดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่
ที่มาของข่าว: มติชนออนไลน์

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.