สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

จี้ ก.อุตฯปรับบทบาทหน่วยงาน 'สมคิด'เน้นปั้นเอสเอ็มอีเข้มแข็ง
18/01/2016
ข่าวเศรษฐกิจ


นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการชี้นำยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการเพิ่มผลิตภาพ นวัตกรรม และมาตรฐานอุตสาหกรรม(สปริงบอร์ด) ครั้งที่ 2/2559 ร่วมกับภาคเอกชน โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ปรับบทบาทจากการเป็นหน่วยงานกำกับ ควบคุม ตรวจสอบ/จับผิด และออกใบอนุญาต มาเป็นหน่วยงานที่พร้อมให้คำปรึกษา/แนะนำด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การลดต้นทุน การประหยัดพลังงาน และประกอบกิจการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

โดยปัจจุบันโรงงานทั่วประเทศมีจำนวนประมาณ 1.4 แสนแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานขนาดกลางและขนาดเล็ก ส่วนโรงงานขนาดใหญ่จะอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเป็นหลักนั้น อยู่ภายใต้การดูแลของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ซึ่งมีกฎหมายควบคุมอย่างเป็นระบบอยู่แล้ว แต่ กนอ. ก็ต้องปรับปรุงบทบาทให้มีความคล่องตัวมากขึ้น

นอกจากนี้ ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เตรียมจัดโครงการไทยแลนด์ สปริงอัพ (Thailand Spring Up) ซึ่งเป็นโครงการอบรมหลักสูตรสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและรายย่อย (เอสเอ็มอี) ให้มีความรู้และสามารถนำนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน มีการจัดทำบัญชีอย่างถูกต้อง รู้จักวางแผนการตลาด ขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ (อีคอมเมิร์ซ) การลดต้นทุนธุรกิจ ประหยัดพลังงาน และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงการประกอบกิจการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย โดยวันที่ 15 ม.ค.นี้ จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเกี่ยวกับรายละเอียดการจัดทำโครงการให้มีความชัดเจน คาดจะเน้นเอสเอ็มอีที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้วเข้าร่วมอบรมเป็นประจำทุกเดือนๆ ละ 200 ราย เป็นต้น

นางอรรชกา กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรี ยังเร่งรัดให้กระทรวงอุตสาหกรรม ติดตามความคืบหน้าการปรับบทบาท และภารกิจของสถาบันต่างๆ ภายใต้สังกัดกระทรวงรองรับนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน เช่น สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ จะต้องปรับโครงสร้างการทำงานให้เป็นองค์กรที่เพิ่มผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในระดับชาติที่มีการบูรณาการร่วมกับภาคเอกชน ไม่เฉพาะทำงานตามนโยบายกระทรวงเท่านั้น สถาบันสิ่งทอ ที่ควรมีการเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อเพิ่มบทบาทด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ สินค้าและแฟชั่นให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สถาบันเหล็กที่ปัจจุบันประสบปัญหาขาดทุน และมีข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจอย่างมาก ทั้งการแข่งขันที่สูงขึ้น ภาวะตลาดที่ซบเซา ทางกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหารือทบทวนบทบาทของสถาบันเหล็กว่า สมควรจะดำเนินการต่ออย่างไร หรือผู้ประกอบการควรต้องรวมตัวกันเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้มากขึ้น

นายกานต์ ตระกูลฮุน ประธานที่ปรึกษาบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรี ได้แนะนำให้กระทรวงอุตสาหกรรมพัฒนาให้ความช่วยเหลือภาคเอกชนให้เกิดความเข้มแข็ง ลดอุปสรรคต่างๆ และพัฒนาคุณภาพการผลิต โดยให้เกิดการพัฒนาอย่างบูรณาการร่วมกันของหน่วยงาน อาทิ กรอ. เดิมทำหน้าที่ตรวจสอบ ควบคุมโรงงาน แต่จากนี้ต้องลงพื้นที่ทำงานเป็นทีม ร่วมกับสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ

ส่วน กสอ. ควรให้ความรู้ความเข้าใจกับภาคเอกชน เพื่อลดต้นทุนการผลิตซึ่งจะเกิดประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมากกว่าการตั้งเป้าเพิ่มยอดจำหน่ายสินค้า รวมถึงพัฒนายกระดับสถาบันต่างๆ ให้เป็นที่ยอมรับและเน้นการออกแบบผลิตภัณฑ์ เช่น สถาบันยานยนต์ สถาบันเหล็ก สถาบันสิ่งทอ

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคที่ภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐประสบปัญหาในการจัดสรรงบประมาณ และการพัฒนาคุณภาพสินค้า ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีการพิจารณาปรับปรุงแผนงานให้เกิดผลมากยิ่งขึ้น
ที่มาของข่าว: แนวหน้า

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.