สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

'สภาพัฒน์'มั่นใจจีดีพี ปีนี้โต3-4%
08/01/2016
ข่าวเศรษฐกิจ
"สภาพัฒน์" มั่นใจจีดีพี ปีนี้โต 3-4% ชี้หัวใจสำคัญคือการลงทุนภาครัฐ จับตา 3 ปัจจัยเสี่ยง เศรษฐกิจโลก-ราคาน้ำมันดิบ-ปัญหาภัยแล้ง

ปัญหาภัยแล้ง,ราคาน้ำมันดิบ,เศรษฐกิจโลก,ปรเมธี วิมลศิริ,สภาพัฒน์,

นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง "เศรษฐกิจไทยปี 2559 มองไปข้างหน้าโอกาสและความท้าทาย"ว่า ในปี 2559 นี้สศช.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ราว 3-4% ซึ่งจะเป็นการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าปี 2558 อย่างแน่นอน โดยในปี 58 ที่ผ่านมา ตัวเลขอย่างเป็นทางการใน 3 ไตรมาสพบว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 2.9% และทั้งปีก็มีโอกาสจะใกล้เคียงกับระดับนี้ แต่อย่างไรก็ดี ต้องรอการประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการในเดือนก.พ.59

"ไตรมาส 4 ปี 58 GDP จะโตได้มากหรือน้อยกว่า 2.9% นั้น คงต้องมารอการรายงานอย่างเป็นทางการในเดือนก.พ.นี้ แต่จากตัวเลขล่าสุดใน 2 เดือน(ต.ค.-พ.ย.58) ก็ยังได้ภาคการท่องเที่ยวเป็นพระเอก และถือว่าช่วยเศรษฐกิจมาทุกปี ขณะที่มาตรการช้อปช่วยชาติก็น่าจะมีส่วนช่วยเรื่องการใช้จ่ายได้ รวมถึงการซื้อรถยนต์ในช่วงปลายปีก่อนที่จะปรับขึ้นภาษี แต่ที่ไม่ค่อยดี คือเรื่องส่งออกที่ล่าสุดเดือนพ.ย.ติดลบไป 6% คงไปบังคับได้ยากเพราะขึ้นกับเศรษฐกิจโลก ต้องรอดูตัวเลขเดือนธ.ค.อีก 1 เดือน" เลขาธิการ สศช.กล่าว

สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญในปี 59 ประกอบด้วย 3 เรื่องสำคัญ คือ 1.เศรษฐกิจโลก โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ประเมินว่าในปีนี้เศรษฐกิจโลกจะเติบโตได้ 3.6% ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตได้ 2.7% และเศรษฐกิจจีน เติบโต 6.7% ซึ่งหากสถานการณ์จริงไม่เป็นไปตามที่ IMF คาดการณ์ไว้ ก็จะถือว่าเศรษฐกิจโลกปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญปัจจัยหนึ่ง 2.ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ซึ่งหากแนวโน้มราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้ก็จะส่งผลดีต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจได้ และ 3.ปัญหาภัยแล้งและสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะมีผลต่อราคาสินค้าเกษตร

นายปรเมธี กล่าวด้วยว่า สำหรับในด้านการบริโภคและการใช้จ่ายของประชาชนนั้น เชื่อว่าในปีนี้ความมั่นใจของผู้บริโภคในการออกมาจับจ่ายใช้สอยจะมีมากขึ้น และน่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อที่จะกลับมาเป็นบวกได้ 1% จากที่ในปี 58 เงินเฟ้อติดลบ 0.9% พร้อมมองว่า สิ่งที่ต้องการเห็นในปีนี้คือการลงทุนกลับเข้ามามากขึ้น โดยมองว่าหัวใจสำคัญคือการลงทุนของภาครัฐเองที่จะเป็นตัวนำให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชนตามมา
ที่มาของข่าว: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.