ขนาดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบล่าสุดที่ธนาคารกลางยุโรปประกาศในวันพฤหัสบดี (3 ธันวาคม) สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน ส่งผลให้เกิดการเทขายสินทรัพย์ในตลาดทุนทั่วโลก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตลาดหุ้นในหลายประเทศเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ฮ่องกง ต่างปรับลดลงในวันศุกร์ (4 ธันวาคม) เป็นแนวโน้มที่ต่อเนื่องมาจากตลาดหุ้นในฝั่งสหรัฐอเมริกาและยุโรปภายหลังจากนักลงทุนผิดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่ธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี ประกาศออกมาภายหลังการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม
ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบล่าสุดของอีซีบีประกอบด้วย การปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนลงจาก -0.2% เป็น -0.3% ซึ่งเป็นมาตรการที่มีเป้าหมายกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อ และขยายเวลาการซื้อพันธบัตรออกไปอีก 6 เดือนจากกันยายน 2559 ไปสิ้นสุดมีนาคม 2560 อย่างไรก็ดี ขนาดการซื้อพันธบัตรไม่มีการปรับเพิ่มจากเดิม 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน และดอกเบี้ยนโยบายถูกคงไว้ที่ 0.05% เท่าเดิม
นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี กล่าวว่า มาตรการเหล่านี้จะช่วยเสริมความเข้มแข็งให้กับโมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภูมิภาคยูโรโซน และเพิ่มความแข็งแกร่งในการรองรับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดีนักลงทุนและนักเศรษฐศาสตร์มองว่ามาตรการเหล่านี้ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง
อีซีบีเริ่มต้นมาตรการซื้อพันธบัตร หรือคิวอี เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยความหวังว่าจะสามารถกระตุ้นเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นมาสู่เป้าหมายใกล้เคียง 2% ที่วางไว้ อย่างไรก็ดี หลังจากเริ่มมาตรการคิวอี เงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยล่าสุดเงินเฟ้อในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่เพียง 0.1% ขณะที่อีซีบีคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้ไว้ที่ 0.1% ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 1% ในปีหน้า และ 1.6% ในปี 2560 เป็นการปรับลดลงจากคาดการณ์เดิมเล็กน้อย
นักวิเคราะห์ต่างคาดหมายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในเดือนธันวาคม หลังจากนายดรากีส่งสัญญาณภายหลังการประชุมเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมว่าจะมีการทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมเดือนธันวาคม
อย่างไรก็ดี สิ่งที่อีซีบีประกาศออกมาสร้างความผิดหวังให้นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนใน 2 ประเด็นหลัก คือ ไม่มีการเพิ่มมูลค่าการซื้อพันธบัตรต่อเดือน และการลดดอกเบี้ยเงินฝากน้อยกว่าความคาดหมาย โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอีซีบีจะซื้อพันธบัตรเพิ่มขึ้น 1-2.5 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนจากเดิม 6 หมื่นล้านยูโร และปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากลงไปเป็น -0.4% หรือมากกว่านั้น
นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า การที่อีซีบีประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย อาจมีสาเหตุมาจากเสียงคัดค้านภายในคณะกรรมการนโยบาย ก่อนหน้านี้ นายเยนส์ วีดมานน์ หนึ่งในคณะกรรมการของอีซีบี และผู้ว่าการธนาคารกลางเยอรมนี ได้ออกมากล่าวแสดงความเห็นว่ามาตรการที่มีอยู่จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อดำเนินการ และแนวโน้มเศรษฐกิจไม่ได้เลวร้ายเท่าใดนัก
นายดรากีกล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ถูกลงช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจด้วยการกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค แต่ขณะเดียวกันมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน “ความเสี่ยงต่อการเติบโตของยูโรโซนเกี่ยวข้องการความไม่แน่นอนที่มีเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ตลอดจนความเสี่ยงจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์” นายดรากีกล่าว
ทั้งนี้ เศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาสที่ผ่านมาเติบโต 0.3% ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 2 ที่เติบโตได้ 0.4% โดยมีปัจจัยลบจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า ความผิดหวังของนักลงทุนจะค่อยๆ ลดน้อยลงไป เดวิด โอเวน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ยุโรปจากวาณิชธนกิจ เจฟเฟอรีส์ กล่าวว่าการยืดเวลาคิวอีออกไป ประกอบกับมาตรการอื่นๆ ที่ประกาศออกมา อาทิ การเพิ่มพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่นเข้ามาในคิวอีด้วย เป็นการส่งสัญญาณว่าอีซีบีพร้อมจะเล่นเกมในระยะยาว แทนที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ตลาด