สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

พาณิชย์จับเหล็กเข้าบัญชีสินค้าอ่อนไหว ห้ามผู้ค้าขายแพงเกินจริง
05/06/2015
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

พาณิชย์ดึงสินค้าเหล็กเข้าบัญชีสินค้าอ่อนไหว เกาะติดความเคลื่อนไหวใกล้ชิด สั่งผู้ผลิต-ผู้ประกอบการ แจ้งราคาทุกวัน เตือนหากราคาเหล็กสูงเกินควร เอาเปรียบผู้บริโภค อาจใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าควบคุม

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน(คน.)กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับผู้ผลิตและผู้ประกอบการสินค้าเหล็กว่าทางกรมได้ขอความร่วมมือในการใช้มาตรการบริหาร โดยขอให้ผู้ผลิตและผู้ประกอบการสินค้าเหล็ก มีการแจ้งราคาสินค้าเหล็กทุกประเภท ทั้งจากต้นทางคือผู้ผลิต และปลายทางคือผู้จำหน่ายให้กรม รับทราบราคาทุกวัน เพราะหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้ใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด(เอดี) และมาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก(เซฟการ์ด) ทำให้เหล็กที่นำเข้าจากต่างประเทศต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เหล็กที่นำเข้ามีการจำหน่ายในราคาที่สูง อีกทั้งก็มีแนวโน้มที่ราคาเหล็กที่ผลิตในประเทศจะปรับราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเหล็กอย่างไม่เหมาะสม กรมฯ ได้ปรับบัญชีสินค้าเหล็กให้เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าอ่อนไหว ที่ต้องมีการติดตามราคาสินค้าทุกวัน จากเดิมที่สินค้าเหล็กอยู่ในกลุ่มสินค้าที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ ซึ่งจะต้องติดตามดูแลสถานการณ์สัปดาห์ละ2 ครั้ง โดยผลดังกล่าวจะมีผลทันที

“การประชุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากที่ รมว.พาณิชย์ ได้เรียกหารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเหล็กทั้งระบบ เพื่อให้ราคาจำหน่ายมีความเป็นธรรมต่อทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้บริโภค โดยในที่ประชุมก็ได้แจ้งให้ผู้ผลิตและผู้ประกอบการสินค้าเหล็ก ว่ากรมจะดูแลสินค้าเหล็กอย่างใกล้ชิดขึ้น จะมีการติดตามราคาทุกวัน และหากราคาจำหน่ายต้นทางไม่มีการปรับขึ้น ตัวแทนจำหน่ายก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปรับขึ้นราคาเช่นกัน ซึ่งทางกลุ่มผู้ประกอบการ ก็ตอบรับ โดยประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ(สอท.) รับปากแจ้งให้สมาชิกดำเนินการอย่างเคร่งครัด”

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า สินค้าเหล็ก ไม่ได้มีการกำหนดราคาแนะนำเอาไว้จึงไม่สามารถระบุเพดานราคาได้ ราคาจะขึ้นลงตามความเหมาะสมของตลาด แต่ทั้งนี้ กรมก็ไม่ได้ละเลยในการดูแลสินค้าเหล็ก เพราะหากพบว่าสถานการณ์ราคาสินค้าเหล็กมีการสวิงราคาขึ้นสูงผิดปกติ ก็จะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบทันที และหากถึงขั้นเกิดความไม่เป็นธรรมก็อาจจะมีการใช้ข้อกฎหมายเข้ามาช่วยควบคุม แต่ก็ยอมรับว่าหากไม่จำเป็นจริงๆ ทางกรมก็ไม่ต้องการใช้กฎหมายเช่นกัน

รายงานข่าวระบุว่า การที่กระทรวงพาณิชย์ปรับบัญชีสินค้าเหล็กให้เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าอ่อนไหวในช่วงนี้ สืบเนื่องมาจากที่ รมว. พาณิชย์ พลเอกฉัตรชัยสาริกัลยะ ต้องการแก้ปัญหา ดูแลเหล็กทั้งระบบอย่างยั่งยืน ประกอบกับมีผู้ใช้เหล็กหลายรายร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าเหล็กในประเทศมีราคาสูง ซึ่งไม่สอดคล้องกับราคาเหล็กในตลาดโลกที่ปรับลดลง โดยเฉพาะเหล็กที่นำเข้าจากต่างประเทศมีราคาสูงดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสจากที่มีมาตรการเอดีที่ทำให้สินค้าเหล็กนำเข้าราคาสูง จนทำให้สินค้าเหล็กในประเทศจะปรับราคาสูงขึ้นตาม จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ความต้องการใช้เหล็กในประเทศของไทยปี 2558 คาดว่าจะอยู่ที่ 18 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีความต้องการใช้ 17 ล้านตัน ซึ่งเหล็กที่ใช้มาตรการเอดีนั้น จะเป็นเหล็กที่ไทยสามารถผลิตได้เพียงพอกับความต้องการ แต่ที่โดนมาตรการเอดี เนื่องจากผู้ผลิตต่างประเทศ นำสินค้ามาขายในไทย ในราคาที่ต่ำกว่าในประเทศตัวเอง ส่วนเหล็กชนิดพิเศษที่ไทยผลิตเองไม่ได้ และใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ และอุตสาหกรรมไฟฟ้าปกติมีการอนุญาตให้นำเข้าได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ราคาเหล็กในประเทศ ปัจจุบัน เหล็กเส้นราคาเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 16,000-17,000 บาทต่อตัน,เหล็กแผ่นอยู่ที่ 19,000 บาท ต่อตัน

ส่วนรายการสินค้า ที่กรมการค้าภายในดูแลอยู่มีจำนวน 205 รายการ เป็นสินค้าในบัญชีสินค้าอ่อนไหว ที่ต้องติดตามดูแล ราคาทุกวัน อยู่จำนวน 27 รายการประกอบด้วย สินค้ากลุ่มอาหาร 9 รายการ เช่น ข้าวสารบรรจุถุง,น้ำมันพืช, ไข่ไก่, ไก่สด, เนื้อหมูชำแหละ,อาหารปรุงสำเร็จ, นมผง,นมสด,
นมเปรี้ยว, สินค้ากลุ่มเชื้อเพลิง อาทิ น้ำมันเบนซิน,น้ำมันดีเซล, ก๊าซเอ็นจีวี,ก๊าซหุงต้ม,แอลพีจีรถยนต์, และสินค้าอุปโภค เช่น อาหารสัตว์,สบู่, แชมพู, ผงซักฟอก,เครื่องแบบนักเรียน,รองเท้านักเรียน และล่าสุด คือ กลุ่มเหล็ก ที่เพิ่งเอามาเป็นสินค้าในบัญชีสินค้าอ่อนไหว เช่น เหล็กเส้น,เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก, เหล็กแผ่นเคลือบโครเมียม, เหล็กแผ่นรีดร้อน, เหล็ก โครงสร้างรูปพรรณ ส่วนสินค้าที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ มี 4 รายการ คือ ปูนซีเมนต์,สายไฟฟ้า,แบตเตอรี่ ,น้ำตาลทราย ส่วนที่เหลือ 178 รายการ เป็นสินค้าที่ต้องติดตามสถานการณ์ทุก 15 วัน

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.