สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

‘การพิมพ์-บรรจุภัณฑ์’ลิ้นห้อย 3 เดือนวูบ 20%
06/05/2015
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

‘การพิมพ์-บรรจุภัณฑ์’ลิ้นห้อย 3เดือนวูบ 20% ลุ้น Q4 พลิกกลับ

กลุ่มการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษกระทบตามส่งออก ชี้แค่ไตรมาสแรกตลาดหายไปแล้ว 15-20% ทำใจครึ่งปีแรกยังไม่ฟื้นตัวแน่  ปัจจัยลบตามมาเป็นระลอกทั้งจ่อปรับค่าแรงและปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม ข้อกีดกันทางการค้า ถูกตัดจีเอสพียุโรป   ผู้ประกอบการร้อง ส่วนใหญ่80% เป็นเอสเอ็มอี ต้องดิ้นปรับตัว ชี้ไปลุ้นเดือนตุลาคม ช่วงไฮซีซันว่าตลาดจะพลิกกลับหรือไม่ 

นายวิชัย สกุลวรารุ่งเรือง ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เวลานี้กลุ่มการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ได้รับผลกระทบแล้วเฉพาะไตรมาสแรกตลาดหายไปแล้ว 15-20%  ได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากการส่งออกที่ซบเซาในเวลานี้  นอกจากนี้ไตรมาส 2 ก็จะเป็นช่วงโลว์ซีชันของอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์อีก ทำให้ครึ่งปีแรกปี 2558 ตลาดอุตสาหกรรมดังกล่าวจะยังไม่ฟื้นตัว  และต้องไปลุ้นอีกครั้งในเดือนตุลาคมเป็นต้นไปหรือเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี

"2 ไตรมาสแรกคนยังไม่จับจ่ายใช้สอย  ขณะที่อีกด้านผู้ประกอบการยังต้องลุ้นอีกว่า ค่าแรงงานขั้นต่ำจะมีการปรับขึ้นจาก 300 บาทเป็น 360 บาทต่อวันหรือไม่  เช่นเดียวกับการพิจารณาปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้สูงกว่า 7% ที่จะกระทบต่อผู้บริโภคปลายทาง ที่จะทำให้อำนาจการซื้อหดตัวลงเพราะของแพงขึ้น รวมถึงการเผชิญปัญหาข้อกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีจากสหรัฐอเมริกา เรื่องค้ามนุษย์ และสหภาพยุโรป(อียู)ประกาศแจ้งเตือน(ให้ใบเหลือง)สินค้าประมงไทย  ทำให้ได้รับผลกระทบด้านส่งออก"

นายวิชัยกล่าวอีกว่า จากกรณีดังกล่าว ผู้ประกอบการการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษที่ขณะนี้ราว 80% จัดอยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) และ 20% เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง  เริ่มตั้งแต่ 1.มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆออกมาสู่ตลาดเพื่อเพิ่มมูลค่ายอดขายให้สูงขึ้น 2. สินค้าส่งออกหลายสาขามีการออกไปเปิดตลาดใหม่มากขึ้นทำให้กลุ่มการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ได้อานิสงส์ทางอ้อมไปด้วยโดยอัตโนมัติ 3. มีการนำดิจิตอลเทคโนโลยีเข้ามาใช้

อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ทั่วประเทศที่มีราว 3 พันราย (ที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์) ยังต้องเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือ และปัญหาผลกระทบด้านต้นทุนรวมที่สูงขึ้นนับตั้งแต่ปรับค่าแรงงานขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ และตันทุนด้านเครื่องจักรที่สูงขึ้น รวมถึงวัตถุดิบที่นำเข้า 

สอดคล้องกับที่นายเกรียงไกร เธียรนุกุล  รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)และกรรมการผู้จัดการบริษัท นิวไวเต็ก จำกัด ผู้ประกอบการด้านการพิมพ์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่าทุกสำนักออกมาปรับลดเป้าตัวเลขจีดีพีและการส่งออกกันเป็นแถว จึงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ เพราะเกี่ยวเนื่องการกับบริโภคภายในประเทศและการส่งออก และประเทศไทยก็พึ่งพาการส่งออกมากกว่า 70% ซึ่งกลุ่มบรรจุภัณฑ์จะส่งออกทางอ้อมไปกับสินค้าส่งออกของไทย

 "เราเจอข้อจำกัดในการส่งออกมาก ทั้งถูกตัดจีเอสพีจากยุโรป ข้อกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีเมื่อกุ้ง หรืออาหารทะเลสำเร็จรูปมีปัญหาด้านส่งออกกลุ่มบรรจุภัณฑ์ก็ต้องกระทบด้วยเพราะต้องไปคู่กัน  ปีนี้เจอหลายเด้ง ยอมรับว่าได้รับผลกระทบหนักที่สุด  จะเห็นว่า ไตรมาสแรกภาพรวมตลาดไม่ดี ไตรมาส 2 ก็เป็นช่วงโลว์ซีชันอีก เพราะเป็นฤดูฝนจึงประเมินว่าปี 2558 ถ้าไตรมาสสุดท้ายตลาดไม่พลิกกลับมากลุ่มการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ก็จะติดลบมากกว่า 10-15%"

นายเกรียงไกรกล่าวอีกว่าในช่วงที่ผ่านมากลุ่มการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ก็มีการปรับตัวอย่างต่อเนื่องเริ่มตั้งแต่การยกระดับงานพิมพ์และงานบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยขึ้น การวิ่งหาตลาดใหม่ๆเข้ามา รวมถึงการปรับตัวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ที่ยังมีข้อได้เปรียบเพราะเป็นผู้นำตลาดกลุ่มนี้อยู่แล้วในขณะนี้  จึงเชื่อว่าอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์จะแข็งแกร่งเมื่อเข้าสู่ตลาดเออีซีในปี 2559 เป็นต้นไป  โดยไทยมีเป้าหมายก้าวเป็นศูนย์กลางเออีซีภายใน 2-3 ปีนี้"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,049  วันที่   3 -  6  พฤษภาคม  พ.ศ. 2558 

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.