มูลค่าการค้าของรัสเซียกับต่างประเทศลดลง 30.1% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีเมื่อเทียบกับปีก่อน จากผลของราคาน้ำมันลดลง ค่าเงินอ่อนค่า และมาตรการคว่ำบาตรที่ส่งผลกระทบเศรษฐกิจของประเทศ
สำนักงานเศรษฐกิจแห่งชาติของรัสเซีย เปิดเผยว่า มูลค่าการค้ากับต่างประเทศลดลงเหลือ 8.33 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ของปีนี้ โดยมูลค่าการนำเข้าลดลงเหลือ 2.57 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือลดลง 37.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การส่งออกลดลง 23.8% เหลือ 5.76 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าเกินดุลการค้า 3.19 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งใกล้เคียงกับมูลค่าการค้าเกินดุลในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2557
ข้อมูลระบุว่า มูลค่าการค้าระหว่างรัสเซียและสหภาพยุโรป (อียู) ลดลง 34.3% เป็น 3.82 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ โปแลนด์ ซึ่งการค้ากับรัสเซียลดลงถึง 48.9% อังกฤษซึ่งมูลค่าการค้าลดลง 51.9% และฝรั่งเศสซึ่งมูลค่าการค้าลดลง 42.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

การค้าระหว่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกาลดลงเพียง 6.4% ในช่วงเดียวกัน ขณะที่มูลค่าการค้าระหว่างรัสเซียและญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 16.7% นับเป็นประเทศคู่ค้าของรัสเซียนอกกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียตเพียงประเทศเดียวที่มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้น
ช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจรัสเซียต้องเผชิญกับปัจจัยกดดันในหลายด้าน ตั้งแต่ราคาน้ำมันดิบซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของรัสเซียมีราคาลดลงเกือบ 50% นับตั้งแต่ช่วงกลางปีก่อน นอกจากนี้มาตรการคว่ำบาตรระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกยังจำกัดการเคลื่อนย้ายสินค้าและเงินสดข้ามประเทศ ตลอดจนเงินรูเบิลที่อ่อนค่าลงราว 40% นับตั้งแต่ต้นปี 2557 ทำให้การซื้อสินค้าจากต่างชาติมีราคาแพงขึ้น
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติรัสเซียระบุว่า รายได้จากการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในช่วงระหว่างเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ลดลงเกือบ 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 2.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการนำเข้าเครื่องจักรและยานพาหนะลดลง 39.6% เป็น 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
การนำเข้าอาหารได้รับผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ของรัสเซียในการห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากยุโรป สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ที่ออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยมูลค่าการนำเข้าอาหารในช่วง 2 เดือนแรกของปีลดลง 42.5% เป็น 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นายดิมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ประเมินว่า เศรษฐกิจรัสเซียหดตัว 2% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี นับเป็นการหดตัวทางเศรษฐกิจครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 โดยนายเมดเวเดฟระบุถึงแรงกดดันจากมาตรการคว่ำบาตรและราคาน้ำมันเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจหดตัว อย่างไรก็ดี นายเมดเวเดฟกล่าวว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศไม่เลวร้ายเท่ากับในปี 2551 และเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น
นายเมดเวเดฟกล่าวด้วยว่า มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกส่งผลอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจ และประเมินว่าการคว่ำบาตรทำให้รายได้จากการส่งออกของรัสเซียหดหายไปประมาณ 2.5 หมื่นล้านยูโร หรือคิดเป็น 1.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
ธนาคารกลางรัสเซียคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศในปีนี้อาจจะหดตัวลงถึง 4% ถ้าราคาน้ำมันดิบคงอยู่ที่ประมาณ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,047 วันที่ 26 - 29 เมษายน พ.ศ. 2558