กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน มี.ค. 2558
มีมูลค่า 1.89 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม ที่ร้อยละ 4.45 (YoY)
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของรอยเตอร์ และศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า
การส่งออกในเดือนมี.ค. 2558 จะหดตัวลงประมาณร้อยละ 3.45) ต่อเนื่องจากที่หดตัวร้อยละ 6.14 (YoY)
ในเดือนก.พ. 2558 ซึ่งทำให้ภาพรวมการส่งออกของไทยในไตรมาส 1/2558 พลิกกลับมาหดตัวลงถึงร้อยละ 4.7 (YoY)
นับเป็นตัวเลขที่ติดลบรายไตรมาสที่มากที่สุดในรอบ 5 ปีครึ่ง และแย่ลงจากที่ขยายตัวร้อยละ 1.6 (YoY)
ในไตรมาส 4/2557
ทั้งนี้ แรงฉุดรั้งสำคัญที่กดดันการส่งออกไทยตลอดช่วงไตรมาสแรกของปี
มาจากภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก
ซึ่งสะท้อนได้อย่างชัดเจนจากสถานการณ์การส่งออกที่ติดลบอย่างต่อเนื่อง ในตลาดจีน สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น
และกลุ่มอาเซียนเดิม 5 ประเทศ ขณะที่ ผลกระทบจากความเสียเปรียบของค่าเงินบาท
และการปรับตัวลงของราคาสินค้าส่งออก โดยเฉพาะในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันดิบ
หรือที่มีโครงสร้างการใช้วัตถุดิบที่มาจากการกลั่นปิโตรเลียม ตลอดจนสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรและทองคำ
ที่เป็นไปตามภาวะตลาดโลก ก็เป็นตัวกดดันการฟื้นตัวของมูลค่าการส่งออกสินค้าสำคัญของไทยด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ของภาคการส่งออกที่อ่อนแอดังกล่าว
ทำให้กระทรวงพาณิชย์ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราการขยายตัวของการส่งออกไทยในปี 2558 มาที่ร้อยละ 1.2
(จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.0) พร้อมกับเตรียมแผนผลักดันการส่งออกเพิ่มเติม
เพื่อให้การส่งออกกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น
มุมมองของศูนย์วิจัยกสิกรไทยแนวโน้มการส่งออกในไตรมาสที่ 2/2558
น่าจะยังคงหดตัว แม้ว่าอัตราติดลบอาจชะลอลง ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมของภาคการส่งออกของไทยในช่วงไตรมาสที่
2/2558 อาจไม่ได้แตกต่างไปจากในช่วงไตรมาสแรกมากนัก เพราะหลายๆ ตัวแปรลบ อาทิ
การขยายตัวอย่างอ่อนแอของเศรษฐกิจที่เป็นคู่ค้าสำคัญของไทย
และการปรับตัวลงของราคาสินค้าเกษตร/สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกที่สำคัญหลายรายการ ตามภาวะราคาในตลาดโลก
ยังคงมีผลคาบเกี่ยวต่อเนื่องมายังในช่วงไตรมาส 2/2558
อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า
แรงฉุดจากตัวแปรลบดังกล่าว อาจบรรเทาลงบางส่วน
โดยเฉพาะหากภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดโลกทยอยปรับตัวขึ้นสู่กรอบที่สูงขึ้นกว่าในช่วงต้นปี
ขณะที่ การส่งออกไปยังตลาดที่เป็นความหวัง อย่างตลาดในกลุ่ม CLMV และตลาดสหรัฐฯ
น่าจะสามารถประคองภาพการขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาส 2/2558
น่าจะกลับมามีโมเมนตัมการขยายตัวที่ดีขึ้นกว่าไตรมาสแรก (ที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
หลายด้านถูกกระทบจากสภาวะอากาศที่ค่อนข้างหนาวจัด) ด้วยเหตุนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
จึงคาดการณ์ในเบื้องต้นว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยในไตรมาส 2/2558 อาจหดตัวลงประมาณร้อยละ 1.0
(YoY) ซึ่งเป็นภาพที่บรรเทาลงกว่าสถานการณ์ไตรมาส 1/2558 ที่หดตัวถึงร้อยละ 4.7
(YoY)

แนวโน้มการส่งออกทั้งปี 2558 สถานการณ์การส่งออกของไทยในช่วง 3
เดือนแรกของปี 2558 ที่หดตัวลงมากกว่าที่คาดเล็กน้อย
ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นต่อการประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของการส่งออกในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
ซึ่งทำให้ยังคงคาดว่า ภาพรวมการส่งออกของไทยในปี 2558 อาจขยายตัวใกล้เคียงร้อยละ 0
(โดยมีกรอบคาดการณ์ในช่วงติดลบร้อยละ 1.0 ถึง ขยายตัวร้อยละ 2.0)
ท่ามกลางการฟื้นตัวในกรอบที่จำกัดของราคาสินค้าส่งออกรายการสำคัญของไทย
นอกจากนี้
หากมองไปในช่วงเหลือของปี 2558 แม้จะคาดว่า เศรษฐกิจของหลายๆ
ประเทศที่เป็นคู่ค้าหลักของไทยน่าที่จะทยอยกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้นกว่าในช่วงต้นปี อย่างไรก็ดี
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การส่งออกของไทยอาจได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์ดังกล่าวเพียงบางส่วน
เพราะมีข้อจำกัดของโครงสร้างในภาคการผลิต ขณะที่ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยหลายประเภท
(โดยเฉพาะสินค้าเกษตร)
ยังต้องรับมือกับภาวะการแข่งขันที่เข้มข้นทั้งทางด้านราคาและปริมาณผลผลิตจากประเทศคู่แข่ง นอกจากนี้
คงต้องติดตามผลจากปัจจัยลบที่เข้ามาเพิ่มเติมของตลาดส่งออกบางแห่ง อาทิ
มาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีในกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหาร
ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงไทยที่จะถูกประเมินอีกครั้งจากสหภาพยุโรปในด้านมาตรการเพื่อป้องกันและขจัดการทําประมงที่ผิดกฎหมาย
ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU) ในเดือน ต.ค. 2558 ตลอดจนผลการรายงานประจำปี
เรื่องสถานการณ์การค้ามนุษย์ (Trafficking in Persons Report) ของสหรัฐฯ ที่จะออกมาในช่วงกลางปี 2558
นี้ ของสหรัฐฯ ที่จะออกมาในช่วงกลางปี 2558 นี้
ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่อาจเพิ่มความเสี่ยงเชิงลบต่อการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้า