สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

"ดานิลี่" ผู้ผลิตโรงงานสำหรับอุตสาหกรรมเหล็ก แตกไลน์รุกขายเครื่องจักรให้ รง.ปิโตรเคมี
30/04/2015
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

"ดานิลี่" ขยายไลน์เหล็กไปยังกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมัน เครนที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง หวังรักษารายได้ไม่ให้ตก หลังเศรษฐกิจชะลอ คาดปี" 58 รายได้ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท พร้อมเผย 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติเจ้าเก่า "พอสโก้" จากเกาหลี และ "นิปปอน สตีล" จากญี่ปุ่น สนใจลงทุนโรงถลุงเหล็กในไทย ด้าน "จักรมณฑ์" บินดูโรงงานพอสโก้ที่เกาหลี 24 เม.ย.นี้

http://www.most.go.th/main/images/stories/013(2).jpg

ดร.บุญนาค โมกข์มงคลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดานิลี่ จำกัด โรงงานผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมผลิตเหล็กรายใหญ่ เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีนโยบายที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมันเครนที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงเครนสำหรับท่าเรือ เพื่อรักษารายได้ของธุรกิจไว้ไม่ให้ตกไปตามภาวะเศรษฐกิจ โดยใช้ความชำนาญเรื่องวิศวกรรมที่มี ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานปีที่ผ่าน ๆ มา บริษัทมีรายได้เฉลี่ยปีละประมาณ 20,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 10% คาดว่าปี 2558 จะยังคงเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก

"สภาวะเช่นนี้การหยุดอยู่กับที่หรือเน้นทำธุรกิจเพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถสร้างรายได้ ดังนั้น บริษัทจึงมีนโยบายที่จะขยายตลาดรูปแบบหน่วยธุรกิจ ฉีกออกจากกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก เพื่อต้องการเพิ่มสายการผลิตในด้านการผลิตอุปกรณ์เครื่องจักร ที่ทนอุณหภูมิและแรงดันสูงสำหรับงานอุตสาหกรรมผลิตเหล็ก อุตสาหกรรมปิโตรเคมี แล้วปีนี้เรายังลงทุนเพิ่มในธุรกิจการซ่อมมอเตอร์ และหม้อไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรมหนัก โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกสถานที่ตั้งโรงงาน"

ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าจำนวนมาก หากรวมกำลังการผลิตเหล็กที่เป็นของบริษัทลูกค้าทั้งหมด มีประมาณ 1 แสนตันต่อปี โดยบริษัททำหน้าที่ตั้งแต่ออกแบบโรงงานเครื่องจักร และเป็นที่ปรึกษาให้ลูกค้าด้วย นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้รับงานสร้างโรงงานเหล็กครบวงจรให้กับเมียนมาร์ เวียดนาม อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซียแล้ว

ดร.บุญนาคกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบายผลักดันให้ประเทศไทยเกิดอุตสาหกรรมต้นน้ำโรงถลุงเหล็กว่า โครงการดังกล่าวยังคงมีความเป็นไปได้สูงที่นักลงทุนรายเดิมอย่างบริษัทนิปปอน สตีล จากญี่ปุ่น และบริษัทพอสโก้ จากเกาหลี ยังมีความสนใจที่จะมาลงทุนในประเทศไทย หลังจากที่โครงการนี้ได้ชะลอไปนานหลายปี โดยเชื่อว่าพื้นที่บริเวณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีความเหมาะสม

การสร้างโรงถลุงเหล็กในไทย มีเอกชนบางรายหวั่นว่าจะเป็นการผูกขาดให้ซื้อเหล็กในประเทศที่มีราคาแพง แต่บริษัทดานิลี่เห็นว่าควรมองผลประโยชน์รวมของประเทศมากกว่า เพราะหากดูการบริโภคเหล็กในประเทศ 18 ล้านตันต่อปี และยิ่งมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ การก่อสร้างเส้นทางคมนาคม หากไทยต้องซื้อเหล็กจากประเทศอื่นตลอดเหมือนยืมจมูกคนอื่นหายใจ ถ้าวันใดประเทศนั้นหยุดขายจะเกิดผลกระทบ ความหวังอุตสาหกรรมเหล็กของไทยตอนนี้ คือ รัฐบาลต้องชัดเจนกล้าตัดสินใจลงทุน เช่นเดียวกับเมียนมาร์และเวียดนาม ที่รัฐบาลฟันธงให้สร้างโรงถลุงเหล็กใช้เวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น

"หากมีโรงถลุงเหล็กควรนำเข้าวัตถุดิบจากบราซิลหรือออสเตรเลีย เพราะทั้ง 2 ประเทศนี้ส่งวัตถุดิบให้ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน โครงการนี้ควรเกิดในรัฐบาลนี้ภายใน 4-5 ปีหากไม่เกิดขึ้นได้เชื่อว่าคงไม่มีรัฐบาลชุดไหนทำได้ เพราะรัฐบาลอ่อนไหวเรื่องการคัดค้านจากกลุ่มมวลชน หรือ NGO ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ"

ดร.บุญนาคกล่าวว่าในวันที่ 24 เม.ย.นี้นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะเดินทางดูงานของบริษัทพอสโก้ ที่เกาหลี ซึ่งเป็นโรงงานถลุงเหล็กอันดับ 4 ของโลก คาดว่าจะเป็นการศึกษาโมเดลนำมาเป็นต้นแบบโรงถลุงเหล็กที่จะเกิดขึ้นในไทย

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.