“พาณิชย์”
ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าไทย-เวียดนามเป็น 2
หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 63 พร้อมเดินหน้าตั้งสภาธุรกิจร่วม
เพื่อเป็นช่องทางแก้ไขปัญหาการค้า และเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

พล.อ.ฉัตรชัย
สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการเดินทางเยือนเวียดนาม
(กรุงฮานอย และนครโฮจิมินห์) ระหว่างวันที่ 21-23 เม.ย. 2558 ที่ผ่านมาว่า
ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม โดยเห็นชอบที่จะขยายมูลค่าการค้าระหว่างกันจากเดิมที่ตั้งไว้
15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มเป็น 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563
หลังจากที่มูลค่าการค้าในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในปี
2557 มีมูลค่า 11,826 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.16
การเพิ่มมูลค่าเป้าหมายการค้าจึงเป็นการสะท้อนความตั้งใจของทั้งสองประเทศ
ที่จะขยายความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้
ในการขยายมูลค่าการค้ามีกลไกที่จะช่วยสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิด
ทั้งเวทีการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ครั้งที่ 2 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายเดือนมิ.ย. 2558
ก่อนที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนาม (Joint Cabinet
Retreat: JCR) ครั้งที่ 3
ในเดือนก.ค. 2558
สำหรับการประชุม JTC
จะมีการหารือถึงการจัดตั้งสภาธุรกิจร่วมไทย-เวียดนาม (Thai-Vietnam
Joint Business Council) ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศเพื่อเป็นช่องทางการสร้างความสัมพันธ์อันดีเพื่อลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน
การทบทวนเรื่องการห้ามนำเข้าผลไม้ไทย 4 ชนิด คือ ลำไย เงาะ ลิ้นจี่ และมะม่วง
จากปัญหาด้านสุขอนามัยพืช การกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านข้อมูลการค้าข้าวและสินค้าเกษตรอื่นๆ
เพื่อประโยชน์ของเกษตรกรทั้งสองประเทศ รวมทั้งขอให้รัฐบาลเวียดนามเร่งรัดอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับโครงการการค้าการลงทุนของผู้ประกอบการไทยในเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม
ในการเดินทางไปครั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามขอให้ไทยเร่งรัดการดำเนินการในโครงการลงทุนขนาดใหญ่
2 รายการที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้อนุมัติโครงการแล้ว คือ
โครงการโรงกลั่นน้ำมันดิบของบริษัท ปตท. และการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน ขนาด
1,200 ล้านเมกะวัตต์ ของบริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล
ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะได้ประสานและเร่งรัดติดตามความคืบหน้าต่อไป
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า
ยังได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU)
ระหว่างกลุ่มอมตะ กับ บริษัทต่วน โจว
เพื่อก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ฮาลอง จังหวัดไฮฟอง ทางตอนเหนือใกล้กับกรุงฮานอย
เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าการลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท
ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากรัฐบาลเวียดนาม
เพราะจะสามารถสร้างงานให้คนไทยและเวียดนามที่จะเข้าไปทำธุรกิจต่อเนื่องในพื้นที่ที่จะเป็นชุมชนใหม่ขนาดใหญ่รองรับการจ้างงานได้กว่า
3
แสนคน