สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

“พาณิชย์” ตั้งเป้าเพิ่มการค้าไทย-เวียดนามเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 63
28/04/2015
ข่าวเศรษฐกิจ

พาณิชย์ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าไทย-เวียดนามเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 63 พร้อมเดินหน้าตั้งสภาธุรกิจร่วม เพื่อเป็นช่องทางแก้ไขปัญหาการค้า และเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xap1/v/t1.0-9/11163808_801221893307162_6936665541235792741_n.jpg?oh=a1944e13175fd9c9eb3ca3e6a8affa34&oe=55E2356A&__gda__=1439467702_0f999f8d26ae2b2ac896d632951cfc84

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการเดินทางเยือนเวียดนาม (กรุงฮานอย และนครโฮจิมินห์) ระหว่างวันที่ 21-23 เม.ย. 2558 ที่ผ่านมาว่า ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม โดยเห็นชอบที่จะขยายมูลค่าการค้าระหว่างกันจากเดิมที่ตั้งไว้ 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มเป็น 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 หลังจากที่มูลค่าการค้าในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในปี 2557 มีมูลค่า 11,826 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.16 การเพิ่มมูลค่าเป้าหมายการค้าจึงเป็นการสะท้อนความตั้งใจของทั้งสองประเทศ ที่จะขยายความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ ในการขยายมูลค่าการค้ามีกลไกที่จะช่วยสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิด ทั้งเวทีการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ครั้งที่ 2 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายเดือนมิ.ย. 2558 ก่อนที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนาม (Joint Cabinet Retreat: JCR) ครั้งที่ 3 ในเดือนก.ค. 2558

สำหรับการประชุม JTC จะมีการหารือถึงการจัดตั้งสภาธุรกิจร่วมไทย-เวียดนาม (Thai-Vietnam Joint Business Council) ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศเพื่อเป็นช่องทางการสร้างความสัมพันธ์อันดีเพื่อลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน การทบทวนเรื่องการห้ามนำเข้าผลไม้ไทย 4 ชนิด คือ ลำไย เงาะ ลิ้นจี่ และมะม่วง จากปัญหาด้านสุขอนามัยพืช การกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านข้อมูลการค้าข้าวและสินค้าเกษตรอื่นๆ เพื่อประโยชน์ของเกษตรกรทั้งสองประเทศ รวมทั้งขอให้รัฐบาลเวียดนามเร่งรัดอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับโครงการการค้าการลงทุนของผู้ประกอบการไทยในเวียดนาม

อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางไปครั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามขอให้ไทยเร่งรัดการดำเนินการในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ 2 รายการที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้อนุมัติโครงการแล้ว คือ โครงการโรงกลั่นน้ำมันดิบของบริษัท ปตท. และการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน ขนาด 1,200 ล้านเมกะวัตต์ ของบริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะได้ประสานและเร่งรัดติดตามความคืบหน้าต่อไป

พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ยังได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) ระหว่างกลุ่มอมตะ กับ บริษัทต่วน โจว เพื่อก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ฮาลอง จังหวัดไฮฟอง ทางตอนเหนือใกล้กับกรุงฮานอย เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าการลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากรัฐบาลเวียดนาม เพราะจะสามารถสร้างงานให้คนไทยและเวียดนามที่จะเข้าไปทำธุรกิจต่อเนื่องในพื้นที่ที่จะเป็นชุมชนใหม่ขนาดใหญ่รองรับการจ้างงานได้กว่า 3 แสนคน

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.