บีโอไอแจงข้อมูลกระตุ้นนักลงทุนไทยแสวงหาฐานการผลิตในกลุ่มประเทศตลาดใหม่
เผยปี 2558
แนะพิจารณาโอกาสและศักยภาพของการลงทุนในประเทศเคนยา
แอฟริกาใต้ เอธิโอเปีย อุซเบกิสถาน ตั้งเป้าผลักดันการลงทุนเชื่อมโยงเศรษฐกิจเอเชียกลาง
เอเชียตะวันออก และแอฟริกา
นายโชคดี แก้วแสง
รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยในงานสัมมนา “โอกาสการลงทุนไทยในสาธารณรัฐเคนยา สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย และสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน”
ว่าในปี 2558 บีโอไอได้คัดเลือกให้ทั้ง 4 ประเทศเป็นประเทศกลุ่มตลาดใหม่ที่น่าสนใจ
และเป็นเป้าหมายที่จะผลักดันให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในอนาคต
นอกเหนือจากการส่งเสริมเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนีเซีย กัมพูชา
ลาว พม่า และเวียดนาม ทั้งนี้
บีโอไอ โดยศูนย์ข้อมูลการลงทุนไทยในต่างประเทศ (TOI) ได้ทำแผนชักจูงลงทุนใน 4 ประเทศดังกล่าว
เพื่อสรุปเป็นแนวทางให้นักลงทุนไทยได้ทราบข้อมูลทั้งข้อมูลพื้นฐานทาง เศรษฐกิจ
สังคม การเมือง กฎระเบียบ ขั้นตอน โอกาสและลู่ทางการค้าการลงทุน ตลอดจนอุปสรรคและข้อควรระวังในการเข้าไปลงทุนทั้ง
4
ประเทศ
ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์แก่นักลงทุนที่สนใจมองหาโอกาสในการเข้าไปลง
ทุนอย่างแท้จริง ทั้ง 4
ประเทศตลาดใหม่เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเป็นตลาดรองรับสินค้าและบริการ
รวมไปถึงการลงทุนจากประเทศไทย ทั้งในด้านความพร้อมของทรัพยากรธรรมชาติ วัตถุดิบ
และแรงงาน รวมทั้งสิทธิประโยชน์ทางการค้าที่ประเทศดังกล่าวได้รับจากประเทศที่พัฒนา
แล้ว (GSP)
โดยประเทศเคนยา
นับเป็นประเทศศูนย์กลางของกลุ่มประเทศสมาชิกตลาดร่วมแห่งภูมิภาคแอฟริกา ตะวันออก
โดยมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมากที่สุด มีเครือข่ายการเชื่อมโยงการคมนาคมที่ดี
มีทรัพยากรธรรมชาติด้านการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์
เป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนไทยในการลงทุนด้านผลิตภัณฑ์เกษตร
เครื่องจักรกลการเกษตรแปรรูปอาหาร อัญมณี เป็นต้น แอฟริกาใต้ เป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยในทวีป
แอฟริกาและเป็นตลาดส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุดในอนุภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้
ปัจจุบันการลงทุนระหว่างไทยกับแอฟริกาใต้ยังมีน้อย
ภาคธุรกิจที่มีศักยภาพต่อการลงทุนร่วมกัน ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ โรงแรม
การก่อสร้าง ธนาคาร และแปรรูปอาหาร ธุรกิจของไทยที่เข้าไปลงทุนในแอฟริกาใต้ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กและขนาด
กลาง เช่น โรงงานผลิตสีอุตสาหกรรม ร้านอาหาร และสปา เอธิโอเปีย
เป็นประเทศที่มีประชากรมากถึง 97 ล้านคน มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 8
ต่อปี
ทำให้เอธิโอเปียเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมาก โดยมีจีนเป็นนักลงทุนเป็นอันดับหนึ่ง
โดยเฉพาะในธุรกิจก่อสร้างสาธารณูปโภค นอกจากนี้
เอธิโอเปียยังเป็นแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญ โดยเฉพาะกุหลาบ และกาแฟ อุซเบกิสถาน เป็นตลาดขนาดใหญ่เป็นลำดับ 3
ในกลุ่มประเทศรัฐอิสระที่แยกออกมาจากสหภาพโซเวียตรัสเซีย
หรือ CIS
(Commonwealth of Independent States) มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 8 ต่อปี
ปัจจุบันอุซเบกิสถานยังคงเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อและคมนาคมในภูมิภาค
อุซเบกิสถานเปิดตัวรถไฟความเร็วสูงไปเมื่อปี 2013 นอกจากนี้
อุซเบกิสถานยังเป็นแหล่งเกษตรกรรมและมีทรัพยากรธรรมชาติจำพวกแร่จำนวนมาก
โดยสามารถผลิตยูเรเนียมได้มากเป็นอันดับ 4 ของโลก