
นางนันทวัลย์
ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) กระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยถึงการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2557 ว่า มีมูลค่าส่งออก 33,028.86
ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4.3 % ขณะที่ 2 เดือนแรกของปี 2558 ส่งออกได้ 5,262
ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 5.16 %
มีแนวโน้มดีขึ้นจากการส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบไปตลาดสำคัญอย่างฮ่องกง
และสหรัฐอเมริกามีมูลค่า 13,564 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.65%
ขณะที่การส่งออกแผงวงจรไฟฟ้า 7,503 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่า 14.6%
“จากแนวโน้มการฟื้นตัวของความต้องการตลาดฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD)
เป็นผลบวกโดยตรงกับอิเล็กทรอนิกส์ไทย และความต้องการ HDD
น่าจะโตต่อเนื่อง และอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
ก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เพราะทั้งฮาร์ดดิสก์ และแผงไอซีที่ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ต่างๆ
เพิ่มขึ้นเช่น แผงไอซี ที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์หลายรุ่น”
นางนันทวัลย์ กล่าว
ขณะที่ SSD (อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลชนิดหนึ่ง
ซึ่งใช้ชิปวงจรรวมที่ประกอบรวมเป็น หน่วยความจำ
เพื่อจัดเก็บข้อมูลแบบถาวรเหมือนฮาร์ดดิสก์) มีแนวโน้มการใช้งานสูงขึ้น
เนื่องจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชิ้นเล็กๆ เปลี่ยนมาใช้ SSD
ส่วนฮาร์ดดิสก์ความจุมากๆ จะเติบโตในตลาดบนทดแทน
แต่ด้วยราคาต่อความจุ SSD ยังแพงมากราว 10-15 เท่า
ทำให้ฮาร์ดดิสก์มีส่วนแบ่งในตลาดหลักๆราว 70% และ SSD 30% ปัจจุบันไทยยังไม่มีการผลิตSSD
ฐานการผลิตใหญ่จะอยู่ที่จีน ญี่ปุ่น เกาหลีเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม
การส่งออกดังกล่าวจะดีขึ้นกว่านี้หากแก้ไขอุปสรรคเหล่านี้อาทิ
การขาดแคลนแรงงานระดับปฏิบัติการ และช่างเทคนิค/วิศวกร
และปัญหาการจ้างแรงงานต่างด้าวตามระเบียบของบีโอไอ, บริษัทข้ามชาติที่เข้ามาลงทุนตั้งโรงงานในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นการจัดสรรคำสั่งผลิตและส่งออกจากบริษัทแม่, การให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของบีโอไอลดลงสวนทางกับประเทศอื่นๆในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
(AEC) ซึ่งเพิ่มสิทธิประโยชน์ เพื่อดึงดูดบริษัทต่างๆ
เข้าไปตั้งโรงงานในประเทศของตน เป็นต้น
นอกจากนี้
ควรจะสนับสนุนด้านงานวิจัยและพัฒนาในประเทศ
เพื่อพัฒนาศักยภาพและการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่อง ,
ปรับเปลี่ยนการผลิตให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภคและความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
หรือหันไปผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในด้านอื่นๆ เช่น เครื่องมือแพทย์
เป็นต้นรวมถึงการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยให้เกิดการรวมตัวกันเป็นคลัสเตอร์เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมยานยนต์
เพื่อสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง