สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

อิตัลไทยเดินหน้าดันยอดขายโต 2 เท่าใน 5 ปีมูลค่ากว่า 2.5 หมื่น ล.
13/03/2015
ข่าวอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
กลุ่มบริษัทอิตัลไทย กลุ่มธุรกิจสำคัญกลุ่มหนึ่งในวงการธุรกิจอุตสาหกรรมและวงการธุรกิจพัฒนา โครงการเพื่อการพาณิชย์ของประเทศไทยตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา ประกาศว่า กลุ่มบริษัทอิตัลไทยตั้งเป้าผลักดันยอดขายธุรกิจในเครือให้เติบโตขึ้น 2 เท่า
 
ภายในระยะเวลา 5 ปี ให้มียอดขายต่อปีอยู่ที่ 25,800 ล้านบาท เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานภาพทางการแข่งขันของกลุ่มบริษัทอิตัลไทย ในยุคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่กำลังจะเกิดขึ้น พร้อมเตรียมรับประโยชน์จากโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของประเทศกลุ่ม เออีซี
http://www.prachachat.net/online/2015/03/14259902851425990315l.jpg
 
นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท  อิตัลไทย เปิดเผยว่า ในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปีการก่อตั้งกลุ่มบริษัทอิตัลไทยมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเสริมสร้างองค์กรให้ แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อก้าวไปในอนาคตข้างหน้าอย่างมั่นคงแข็งแรง โดยจะเร่งเครื่องการเติบโตของธุรกิจ พร้อมทุ่มเงินอีก 11,000 ล้านบาทลงทุนในส่วนของศูนย์บริการ สิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆ และโรงงาน ตลอดจนการบริการใหม่ๆ รวมไปถึงการพัฒนาศักยภาพองค์กร ซึ่งทั้งหมดนี้จะเดินหน้าทำให้เห็นผลตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2562 โดยธุรกิจของกลุ่มบริษัทอิตัลไทย มีอยู่สองประเภทธุรกิจในสัดส่วนพอๆ กัน ซึ่งทั้งสองประเภทธุรกิจนี้ ถือเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย ได้แก่ ‘กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่อง จักรกลและบริการด้านวิศวกรรม’ ที่เชื่อมโยงกับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศและการพัฒนาประเทศ ไทย และ ‘กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมบริการและไลฟ์สไตล์’ ที่เชื่อมโยงกับภาคการท่องเที่ยวของไทยซึ่งสามารถแข่งขันได้กับทั่วโลก โดยบริษัทจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการเติบโตของธุรกิจทั้งสองส่วนเท่าเทียม กัน
 
“เรามีธุรกิจจำหน่ายเครื่องจักรกลและบริการหลังการขายที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยให้กับแบรนด์วอลโว่ (Volvo) ทาดาโน่ (Tadano) และเอสดีแอลจี (SDLG) ยอดขายของธุรกิจในส่วนนี้ปัจจุบันอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเราตั้งเป้าจะผลักดันให้เติบโตขึ้นเป็น 8,000 ล้านบาทภายในปี 2562 และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดขึ้นจาก 14% เป็น 20% โดยจะเน้นให้ความสำคัญในเรื่องการให้บริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้าของเราซึ่ง เป็นผู้รับเหมาชั้นนำของไทย” นายยุทธชัย กล่าว
 
ส่วนของ ธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล บริษัทมีกลยุทธ์ในการให้บริการที่เหนือระดับ โดยอาศัยการดำเนินงานสามส่วนหลักๆ คือ ส่วนแรกเป็นการดำเนินกลยุทธ์แบบหลากหลายแบรนด์ ซึ่งจะสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายในธุรกิจการก่อสร้างและการ ลำเลียงวัสดุ ได้อย่างครบวงจร อย่างเช่นอุปกรณ์ก่อสร้างแบรนด์วอลโว่ เหมาะกับงานหนักๆ เช่น การทำเหมือง ซึ่งต้องใช้รถขุดขนาดใหญ่ กับรถตักล้อยางขนาด 30 ตันขึ้นไป ส่วนรถเครนแบรนด์  ทาดาโน่ ซึ่งเป็นผู้นำอยู่ในตลาดรถเครนในปัจจุบัน เป็นที่นิยมมากที่สุดในการใช้งานขนย้ายหรือลำเลียงวัสดุ และอุปกรณ์ก่อสร้างแบรนด์เอสดีแอลจีของเรา เหมาะเป็นพิเศษกับอุตสาหกรรมทั่วไป ที่มองหาเครื่องจักรราคาเหมาะสม เช่น สวนยาง โรงสี และภาคเกษตรกรรม ซึ่งจากจุดแข็งในการทำตลาดของแบรนด์เอสดีแอลจี ทำให้แบรนด์เอสดีแอลจีขยับส่วนแบ่งตลาดในประเทศไทยจากอันดับ 7 ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา ทำให้เราสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาด อยู่ที่ 20% ของตลาดรถตักล้อยางที่มีมูลค่าตลาด 1,000 ล้านบาท
 
นายยุทธชัย กล่าวว่า อิตัลไทยจะขยายความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอภายใต้แบรนด์เอสดีแอลจีให้ เพิ่มมากขึ้น โดยจะแนะนำรถขุดขนาดเล็ก รถเกรด รถบด และรถตักแบ็คโฮรุ่นใหม่ๆ กลยุทธ์ที่สองเพื่อกระตุ้นยอดขายและเพิ่มส่วนแบ่งตลาด คือการลงทุนอย่างจริงจังเพื่อขยายเครือข่ายทั่วประเทศให้ครอบคลุมมากยิ่ง ขึ้นอีกเท่าตัว จากปัจจุบันที่มีอยู่ 14 สาขา เพิ่มเป็น 30 สาขาภายในปี 2562 ซึ่งจะทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการให้บริการหลังการขายอย่างรวดเร็ว จากการมีช่างผู้เชี่ยวชาญและชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ พร้อมสำหรับบริการ เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องจักรจะอยู่ในสภาพพร้อมทำงานตลอดเวลา นอกจากนี้ได้เข้าไปเปิดสาขาในประเทศลาว ในนครเวียงจันทน์ และปากเซ รวมทั้งได้จัดตั้งหน่วยบริการในพื้นที่ในไซยะบุรีและหงสา เพื่อสนับสนุนลูกค้าในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ โดยปีนี้มีแผนจะเปิดสาขาใหม่ในจังหวัดนครสวรรค์ สุรินทร์ และสกลนคร  กลยุทธ์ที่สามคือ การจัดระบบที่จะช่วยให้สามารถทำงานประสานกับผู้รับเหมารายใหญ่สุดในประเทศ ได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะทำให้กลายเป็นผู้ช่วยที่ไว้วางใจได้อย่างสมบูรณ์แบบและเป็นส่วนหนึ่ง ที่องค์กรของลูกค้าพึ่งพาได้ตลอด
 
ส่วนธุรกิจบริการด้านวิศวกรรมได้ตั้งเป้าหมายผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้นจาก 3,200 ล้านบาท เป็น 7,600 ล้านบาทภายในเวลา 5 ปี โดยปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวช่วยผลักดันการเติบโตนี้ คือชื่อเสียงของธุรกิจวิศวกรรมที่ได้สร้างขึ้นในฐานะผู้รับเหมาระดับโลก ที่เชื่อถือได้และมีผลงานมาตรฐานสูงมากทั้งในด้านคุณภาพและความปลอดภัย จากชื่อเสียงที่เป็นที่ยอมรับดังกล่าว ทำให้สามารถยกระดับตัวเองขึ้นจากการเป็นผู้รับเหมาด้านวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม มาเป็นผู้รับเหมาที่ให้บริการแบบครบวงจร
 
“เรากำลังขยายธุรกิจเข้าไปในตลาดเซคเตอร์ใหม่ๆ เพิ่มเติมจากฐานลูกค้าเดิมในกลุ่มวิศวกรรมเครื่องจักรกล ไปสู่ลูกค้าในกลุ่มงานไฟฟ้าและวิศวกรรมโยธา โดยการลงทุนอย่างหนักในเรื่องสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกในการให้บริการ ลูกค้าต่างๆ นอกจากนี้ เรายังสยายปีกออกไปยังตลาดพื้นที่ใหม่ๆ เช่น การสร้างธุรกิจในพม่า โดยเน้นรับงานด้านวิศวกรรมภายในอาคาร ด้านไฟฟ้าและท่อประปา พลังงานทดแทนอย่างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์และพลังลม สร้างโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าเกินหน้าสู่การเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทาง เลือกในประเทศไทย ที่เป็นตัวเลือกที่ลูกค้าต้องการใช้บริการ ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า"
 
‘กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมบริการและไลฟ์สไตล์’ ของกลุ่มบริษัทอิตัลไทย เป็นกลุ่มธุรกิจที่เราตั้งเป้าหมายการเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยแผนการขยายธุรกิจ ในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้จำนวนโรงแรมในเครือ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ของกลุ่ม อิตัลไทย เพิ่มขึ้นจาก 38 แห่งในปัจจุบัน เป็นมากกว่า 100 แห่ง ด้วยจำนวนห้องพัก 18,500 ห้อง ใน 10 ประเทศภายในระยะเวลา 5 ปี โดยในปี 2558 นี้ จะมีการเปิดโรงแรมใหม่ในประเทศมัลดีฟส์ มาเลเซีย ศรีลังกา และจีน
 
“เรากำลังลงทุนสร้างเครือข่ายในเอเชีย-แปซิฟิก รวมทั้งพัฒนาแบรนด์ที่เหมาะสมที่จะช่วยให้เราดึงดูดลูกค้าได้ด้วยผลิตภัณฑ์ ที่หลากหลายในหลายระดับราคา ด้วยมรดกแห่งความเป็นไทยของเรา ทำให้เรามีจุดแข็งที่ได้เปรียบในฐานะผู้ให้บริการโรงแรมที่โดดเด่น ด้วยการมุ่งเน้นการให้บริการที่ยอดเยี่ยม อาหารและเครื่องดื่มที่อร่อยประทับใจในโรงแรมในเครือของเรา จะช่วยตอกย้ำชื่อเสียงของประเทศไทยในระดับโลก” นายยุทธชัย กล่าว
 
นายยุทธชัยตั้งข้อสังเกตว่า ทุกวันนี้มีบริษัทจากเอเชียที่เป็นผู้ให้บริการโรงแรมและการท่องเที่ยวที่ ประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลกจำนวนน้อยมาก และ “ความสำเร็จของโรงแรมแบรนด์ไทยในเวทีระดับโลกจะช่วยตอกย้ำชื่อเสียงของ ประเทศไทยในฐานะหนึ่งในประเทศที่เป็นเยี่ยมที่สุดของโลกด้านการบริการ”
 
นายยุทธชัย กล่าวว่า กลุ่มบริษัทอิตัลไทยดำเนินธุรกิจ ‘โรงแรมและรีสอร์ท’ 3 แบรนด์   คือ แซฟฟรอน (Saffron) แบรนด์ระดับลักชัวรี่ อมารี (Amari) แบรนด์สำหรับตลาดระดับบน และ โอโซ่ (Ozo) แบรนด์สำหรับการบริการเฉพาะอย่าง  ธุรกิจอื่นๆ ในกลุ่มธุรกิจบริการและไลฟสไตล์ ได้แก่ ‘เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์’ ซึ่งให้บริการภายใต้แบรนด์ ชามา ลักซ์ (Shama Luxe) ชามา (Shama) และ ชามา ไลท์ (Shama Lite) นอกจากนั้นยังมีธุรกิจ ‘สปา’ ภายใต้แบรนด์ มาย (Maai) สำหรับตลาดลักชัวรี่ และ บรีซ (Breeze) สำหรับตลาดระดับบน
 
“กุญแจสู่ความสำเร็จของเรา อยู่ที่การมอบประสบการณ์ระดับคุณภาพ ที่ได้มาตรฐาน และคงเส้นคงวา ให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการในแบรนด์ต่างๆ ของเราทุกแบรนด์ นั่นเป็นเหตุผลทำให้เราพัฒนาและยกระดับมาตรฐานความเป็นเสิศในการดำเนินงาน ของเราอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของระบบไอที ส่วนงานขาย และโครงสร้างในการการบริหารงานและดำเนินงานของเรากลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม บริการและไลฟ์สไตล์ กลุ่มบริษัทอิตัลไทย ยังเป็นผู้บริหารธุรกิจ แฟรนไชส์ชาทีดับลิวจี (TWG Tea Franchise) ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทำยอดขายให้เติบโตขึ้นมากกว่า 2 เท่า ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า   ส่วนชาทีดับลิวจี เป็นแบรนด์ระดับซูเปอร์พรีเมี่ยม ซึ่งทีซาลอน (Tea Salon) ของเราล้วนแล้วแต่จะต้องตั้งอยู่ในทำเลที่จะต้องรายล้อมไปด้วยแบรนด์ระดับ ซูเปอร์พรีเมี่ยมอื่นๆ โดยนอกจากทีซาลอนสาขาต่างๆ แล้ว เรายังเดินหน้าเติบโตจากการขายผ่านเคาน์เตอร์ค้าปลีก และการขายระดับองค์กร รวมทั้งการจับมือกับพันธมิตรค้าปลีก  เพื่อเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้สำหรับกลุ่มธุรกิจบริการ และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มบริษัทอิตัลไทย เรากำลังทุ่มงบลงทุนประมาณ 7,000 ล้านบาทในธุรกิจเหล่านี้ ตลอดระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า พร้อมกับตั้งเป้าหมายดันยอดขายให้เติบโตเพิ่มขึ้นจาก 5,700 ล้านบาทในปี 2557 ให้เป็น 10,200 ล้านบาทในปี 2562”   

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.