
นายสมชาย หาญหิรัญ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ปีนี้รถบรรทุกและชิ้นส่วนยานยนต์น่าจะเป็นตัวหลักในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้ กลับมาเป็นพระเอกขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อีกครั้ง หลังจากปีที่ผ่านมายอดการผลิต และจำหน่ายรถยนต์ลดลงกว่า 20% โดยรถบรรทุกจะมีปริมาณการจำหน่ายในประเทศมากขึ้น
เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการลงทุนโครงสร้าง พื้นฐานของภาครัฐ แต่ยอดการผลิตอาจเพิ่มไม่มาก เพราะปีที่ผ่านมามีสต๊อกรถบรรทุกค้างอยู่จำนวนหนึ่ง หลังจากช่วงครึ่งแรกของปี 2557 ภาคเอกชนและภาครัฐชะลอ การลงทุน
ส่วนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์คาดว่ามียอดการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อ เนื่อง เนื่องจากขณะนี้ประเทศต่างๆ ในอาเซียนผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยมีความแข็งแกร่ง จึงมีความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
แนวโน้มการส่งออกในอุตสาหกรรมยานยนต์ ขณะนี้การผลิตรถยนต์ในภูมิภาคนี้เริ่มเปลี่ยนไป โดยบริษัทค่ายรถยนต์ชั้นนำหันไปขยายการลงทุนในตลาดอินโดนีเซีย และประเทศอื่นมากขึ้น เพื่อผลิตรถยนต์ตอบสนองต่อตลาดภายในประเทศ เนื่องจากตลาดภายในประเทศอินโดนีเซียมีขนาดใหญ่ ประชากรกว่า 200 ล้านคน

"ในอนาคตยอดการส่งออกรถยนต์ทั้งคันอาจมีอัตราการขยายตัวที่ลดลง แต่จะไปเพิ่มการส่งออกของชิ้นส่วนรถยนต์มากขึ้น ทำให้ไทยยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมรถยนต์ของอาเซียน โดยคาดว่าปีนี้จะมียอดการผลิตมากถึง 2.2 ล้านคัน ขยายตัว 16%"
ด้านนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในเดือนก.พ.จะพิจารณาเป้าหมายการผลิตรถยนต์ทั้งปี 2558 ว่าจะเป็นไปตาม เป้าหมาย 2.2 ล้านคันหรือไม่ เนื่องจากในเดือนธ.ค.2557 ยอดผลิตรถบรรทุกขนาดมากกว่า 1 ตันขึ้นไป เพิ่มขึ้น 16.18%
เนื่องจากการลงทุนจากภาครัฐทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น โดยจะพิจารณาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของไทยว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายของ รัฐบาลหรือไม่ ซึ่งจะ ส่งผลต่อยอดการผลิตรถยนต์รวมของปี 2558 แน่นอน