
นายไตรภพ บุญเหมือน ประธานบริษัท แม็กซ์เท็กซ์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้จำหน่ายเครื่องจักรเพื่อปรับปรุงคุณภาพข้าวยี่ห้อ Max Sort แบรนด์ไทย และเครื่องจักรอุปกรณ์โรงสีครบวงจร กล่าวว่าจากที่สมาคมโรงสีเมียนมาร์ ได้เดินทางมาศึกษาและดูงานระบบโรงสีข้าวและเครื่องจักรของบริษัทแม็กซ์ เท็กซ์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 นี้ นายอู ทิน วิน นายกสมาคมโรงสีเมียนมาร์และคณะรู้สึกปลาดใจ ที่เทคโนโลยีของแม็กซ์เท็กซ์ ที่ไม่ด้อยกว่าเครื่องจักรต่างชาติที่โรงสีเมียนมาร์ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งหากเปรียบเทียบคุณภาพและราคาเครื่องจักรของแม็กซ์เท็กซ์เป็นทางเลือกที่ น่าสนใจแก่สมาชิกที่เดินทางมาดูงานในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
“ปัจจุบัน เมียนมาร์มีจำนวนโรงสีที่มีกำลังการสีข้าวเปลือกสูงกว่า 15 ตันต่อวัน จำนวน 1,362 โรง และต่ำกว่า 15 ตันต่อวัน จำนวน 15,472 โรง ซึ่งส่วนใหญ่ทุกโรงสีจะใช้เครื่องจักรสีข้าวแต่เดิมมานานแล้ว แต่เนื่องจากเทคโนโลยีในการสีข้าวในปัจจุบันมีการพัฒนาไปมาก มีจำนวนสมาชิกไม่น้อยที่เริ่มเปลี่ยนเครื่องจักรโรงสีข้าวเป็นเครื่องจักร สัญชาติยุโรปและจีน และจากการเดินทางมาดูงานที่บริษัทแม็กซ์เท็กซ์ในครั้งนี้ คณะสมาคมโรงสีเมียนมาร์มีความมั่นใจที่จะใช้เครื่องจักรของแม็กซ์เท็กซ์ใน อนาคตแน่นอน” นายไตรภพ กล่าว
นายไตรภพ กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากการยุติการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ส่งผลให้การดำเนินการเพื่อปรับปรุงเครื่องจักรโรงสีแต่ละโรงสีก็ชะลอตัวไป ด้วย ส่งผลให้แม็กซ์เท็กซ์จะมีรายได้ประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ แต่เนื่องด้วยในปี 2558 จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC และแม็กซ์เท็กซ์จึงมีแผนจัดตั้งบริษัทที่เมียนมาร์ ซึ่งทำให้คาดว่ายอดขายในปี 2558 แม็กซ์เท็กซ์น่าจะทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท แน่นอน
นายอู ทิน วิน นายกสมาคมโรงสีข้าวเมียนมาร์ กล่าวว่า จากการที่คณะสมาคมโรงสีเมียนมาร์ได้เดินทางมาดูการทำธุรกิจโรงสีข้าวใน ประเทศไทย พร้อมทั้งได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมเครื่องจักรของบริษัท แม็กซ์เท็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเครื่องจักรโรงสีข้าวครบวงจร สัญชาติไทย ทั้งนี้ก่อนเดินทางมาดูงานตนเองยอมรับอยู่แล้วว่าระบบโรงสีและเครื่องจักร ของเมียนมาร์ยังล้าหลังประเทศไทย แต่ไม่คิดว่าเครื่องจักรของแม็กซ์เท็กซ์ จะมีเทคโนโลยีที่ไม่เป็นรองเครื่องจักรสัญชาติยุโรปและจีน ที่เป็นผู้นำในเครื่องจักรโรงสีเมียนมาร์ในปัจจุบัน