จุดเริ่มต้นมาจากการที่ต้องการสร้างโมเดลสำหรับงานวิศวกรรมของตนเอง ที่ต้องมีการผลิตเพื่อทดลองก่อน แล้วจึงจะนำไปผลิตในเชิงอุตสาหกรรมปริมาณเยอะ ๆ แต่ไม่มีโรงงานที่ตอบโจทย์ในการผลิตชิ้นงานเพียงไม่กี่ชิ้น บวกกับเครื่องจักร CNG ซึ่งใช้ในการผลิตมีราคาสูง และต้องตามมาด้วยเครื่องกลึง เครื่องเจาะอีก ต้นทุนไม่ต่ำกว่าหลักแสน

นายพาโชค พิมเลขา ผู้ออกแบบ InnoPrinter เครื่องพิมพ์ 3 มิติที่พัฒนาเครื่องพิมพ์ที่แข็งแรง สามารถใช้ร่วมกับงานที่เป็นโลหะจริง ๆ ได้ จึงพัฒนาเครื่องพรินต์ 3 มิติขนาดพกพา ผลิตชิ้นงานได้ตั้งแต่ขนาด 1x1 มม.ไปจนถึง 40x40x40 ซม.ได้ และสามารถขยายสเกลเครื่องจักรจากขนาดพกพา 15x15 ซม.ไปสู่สเกลอุตสาหกรรมได้
จุดเด่นที่นายพาโชคท้าชนกับเครื่องพรินต์ 3 มิติเจ้าอื่น คือ เรื่องของขนาดที่พกพาได้ น้ำหนักเบาเพียง 4.2 กก.เท่านั้น รวมถึงวัสดุในการสร้างชิ้นงานจากธรรมชาติ โดยสังเคราะห์มาจากเมล็ดข้าวโพด ทำให้ชิ้นงานมีน้ำหนักเบา และชิ้นงานใช้งานกับอาหารได้ ในแง่ความแข็งแรงที่สามารถใช้ร่วมกับชิ้นงานจริงได้ สามารถทนแรงกด-ดึงได้เฉลี่ยถึง 1 ตัน (ขึ้นอยู่กับรูปทรงที่ออกแบบ) และทนความร้อนได้ถึง 200 องศาเซลเซียส รวมถึงไม่มีเสียงรบกวนขณะทำงาน สามารถสั่งพิมพ์ผ่านซอฟต์แวร์ที่ทางบริษัทออกแบบ โดยใช้ร่วมกับโปรแกรมออกแบบต่าง ๆ ได้ทั่วไป

ความต้องการเครื่องพิมพ์สำหรับในการผลิตโมเดล สำหรับชิ้นเดียวในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิ อุตสาหกรรมรถยนต์ ที่ใช้ผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ รวมถึงโมเดลสำหรับทดลองรถรุ่นที่เป็นลิมิเต็ด ก่อนไปสู่การลงทุนสร้างโมเดลในการผลิตเชิงอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีการปรับแก้แบบตามความต้องการลูกค้า ซึ่งต้องปรับแก้หลายครั้งทำให้ลดต้นทุนในการผลิต สามารถนำต้นแบบสุดท้ายที่พอใจที่สุดไปสั่งทำโมเดล รวมถึงกลุ่มนักออกแบบ ทั้งออกแบบโมเดลหุ่นยนต์ เป็นต้น
ทำให้ปัจจุบันมีโรงงานที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์นำไปใช้ในการผลิตสินค้าแล้ว รวมถึงกลุ่มสถาบันการศึกษาที่นำไปใช้ในวิชาที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การทดลองแรงดึงต่าง ๆ และกลุ่มโรงงานที่ผลิตบรรจุภัณฑ์ แล็บเครื่องมือแพทย์ มีพรีออร์เดอร์สั่งผลิตแล้ว 20 เครื่อง
เป็นทางออกสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการทดลองชิ้นงานก่อนการผลิตจริง โดยเริ่มต้นที่การลงทุนหลักหมื่นก่อนที่จะขยายสู่หลักแสน นับว่าเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้ผลิตที่ต้องครีเอตสินค้าใหม่ ๆ อยู่เสมอเช่นกัน